| |
new releases
Manager 360 aStore
|
|
| |
|
 |
The Back of the Napkin
ผู้เขียน: Dan Roam
ผู้จัดพิมพ์: Portfolio
จำนวนหน้า: 270
ราคา: $24.95
buy this book
|
|
|
 |
Dan Roam ผู้แต่ง The Back of the Napkin: Solving Problems and Selling Ideas with Pictures พยายามชี้ให้เห็นประโยชน์ของการเรียนรู้ที่จะนำการคิดเป็นภาพของเรามาใช้ประโยชน์ ผ่านภาพที่เราวาดเองด้วยมือเพื่อเข้าถึงหัวใจของเรื่องที่ซับซ้อน แทนที่จะใช้ภาพกราฟหรือผังสวยเนี้ยบที่สร้างจากคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรม PowerPoint
ผู้แต่งชี้ว่า การสื่อด้วยภาพที่วาดด้วยมือเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดในการนำเสนอสารที่คุณต้องการ และไม่ว่าปัญหาใดก็สามารถจะอธิบายให้ชัดเจนขึ้นได้ด้วยภาพเพียงภาพเดียวและไม่ว่าภาพใดๆ ก็สามารถจะสร้างขึ้นได้ด้วยเครื่องมือเพียงชุดเดียว นั่นคือกระดานและปากกา คุณสามารถจะหยิบปากกาขึ้นมา แล้วเริ่มต้นวาดความคิดที่คุณต้องการจะสื่อไปถึงผู้ชมลงบนกระดาน และแม้กระทั่งสามารถเชิญชวนให้ผู้ชมช่วยวาดความคิดของพวกเขา เพิ่มเติมลงไปบนภาพที่คุณวาดก็ยังได้ โดยไม่ต้องอาศัยคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป หรือโปรแกรมใดๆ ในการสร้างภาพที่สวยเนี้ยบแต่อย่างใด
แต่ฉันตกศิลปะ
Roam รู้ดีว่า หลายคนรู้สึกกลัวเมื่อเขาแนะนำให้วาดภาพด้วยมือในการนำเสนอความคิดเพื่อแก้ปัญหาทางธุรกิจ แต่เขายืนยันว่า การนำเสนอด้วยการใช้ภาพวาด ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฝีมือหรือพรสวรรค์ในเชิงศิลปะแต่อย่างใด และไม่ต้องไปฝึกเรียนศิลปะที่ไหนทั้งสิ้น สิ่งที่เขาแนะนำเป็นเพียงการเข้าถึงพลังของการคิดเป็นภาพ ซึ่งเขายืนยันว่า เป็นสิ่งที่เราทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอยู่แล้ว Roam บอกว่า ความสามารถในการคิดเป็นภาพเป็นเครื่องมือทางชีววิทยาที่ติดตัวเราทุกคนมาอยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องเรียนรู้ที่จะใช้เครื่องมือธรรมชาตินี้ (ดวงตา ดวงตาในความคิดและจิตใจ และการใช้ดวงตากับมือประสานกัน) ในการทำตามขั้นตอน 4 ขั้นของการคิดเป็นภาพ (มอง เห็น คิดจินตนาการ และแสดงออกมา) กระบวนการคิดเป็นภาพ 4 ขั้นตอนนี้ เมื่อรวมกับ 6 วิธีที่เราใช้ในการมอง (ใคร/อะไร, มากน้อยเท่าไร, ที่ไหน, เมื่อใด, อย่างไร และทำไม) ก็จะทำให้เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน และยังสามารถจะนำเสนอหรือแสดงข้อมูลนั้นออกมาด้วยรูปภาพที่ชัดเจนและง่ายต่อการเข้าใจ
วาดรูปสื่อความคิด
ผู้แต่งยังบอกเหตุผลที่คุณไม่ต้องกังวล หากรู้สึกว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะ เพราะคนเรามักชอบดูรูปที่คนอื่นวาด และผู้ชมก็มักมีการตอบสนองต่อรูปที่วาดด้วยมือ (ไม่ว่าจะวาดหยาบเพียงใด) ได้ดีกว่าภาพที่สร้างขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์ แม้จะสวยกว่าภาพที่วาดด้วยมือ
จากนั้น ผู้แต่งอธิบายวิธีใช้ประโยชน์จากพลังของรูปวาด โดยสอนเทคนิคต่างๆ ที่จะทำให้เรามอง เห็น และคิดได้ดีขึ้น และสามารถจะเลือกรูปที่จะนำมาวาดได้อย่างเหมาะสมกับข้อมูลที่เราต้องการจะสื่อ เราสามารถใช้การวาดรูปเพื่อสื่อแนวคิดสำคัญ หรือใช้เป็นกรอบในการนำเสนอแนวคิดสำคัญไปถึงผู้อื่น กระบวนการคิดเป็นภาพและสื่อด้วยรูปวาดของ Roam อาจเปลี่ยนแปลงวิธีที่โลกธุรกิจใช้ในการแก้ปัญหาทางธุรกิจและขายความคิดต่างๆ
|
 |
|
|
