|
new releases
Manager 360 aStore
|
|
|
|
|
How Buffett Does It
ผู้เขียน: James Pardoe
ผู้จัดพิมพ์: McGraw-Hill
จำนวนหน้า: 154
ราคา: ฿650
buy this book
|
|
|
|
เรื่องของราชานักเล่นหุ้นประเภทเน้นคุณค่าอย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ก่อตั้งและถือหุ้นใหญ่ เบิร์กไชลด์ฯ เป็นเรื่องใคร่รู้ของคนอยากรวยทางลัดจากการเก็งกำไรเสมอมา หนังสือจำนวนมากมายรวมทั้งที่เป็นการ์ตูนก็ออกมาจำหน่ายขายดีเสมอ
นิตยสารธุรกิจฉบับต่างๆ ในอเมริกา ก็ล้วนแล้วแต่ใส่ใจกับความเคลื่อนไหวและถ้อยคำทั้งโดยตรง และระหว่างบรรทัดของบัฟเฟตต์เสมอมา
เรียกว่ายิ่งแก่ ก็ยิ่งเผ็ด แบบหัวขิงกันเลยทีเดียว
หนังสือเล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มหนึ่ง แต่เน้นการเอาเรื่องยากมาแปลงให้ง่ายในลักษณะ How To เพื่อเป็นคู่มือสำหรับพกพาแก่นักลงทุนหน้าใหม่ที่ต้องการเข้าตลาดหุ้นและหวังรวยทางลัด
สาระของหนังสือ ก็คือ จับเอาประเด็นกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นมา 24 หัวข้อ ตามบทในหนังสือ พร้อมกับบอกว่า มีกรณีศึกษาอะไรให้เห็นเป็นตัวอย่างด้วย แน่นอนว่า ทุกประเด็นก็คือ ช่องทางรวยสำหรับการเก็งกำไรทั้งสิ้น ส่วนจะ "อ่านแล้วรวย" หรือไม่ ก็คงต้องขึ้นกับเก่งหรือเฮงของนักลงทุนประกอบกันไปด้วย
เรื่องราวของบัฟเฟตต์นั้น ไม่ต้องเอ่ยถึงกันมากนัก เพราะนักลงทุนหุ้นในโลกนี้คนไหนไม่รู้จักบัฟเฟตต์ ก็คงต้องกลับไปพิจารณาตัวเองให้ดีว่าพร้อมจะเข้าตลาดหุ้นหรือยัง เนื่องจากโอกาสเจ๊งมีมากกว่ารวย
บัฟเฟตต์คือลูกศิษย์ของเบนจามิน แกรห์ม ปรมาจารย์นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า ที่ไม่เชื่อเรื่องการเล่นหุ้นระยะสั้น แต่ให้ความสำคัญกับการมองพื้นฐานบริษัทในระยะยาว โดยเลือกจังหวะเข้าซื้อที่เหมาะสม และตั้งเป้าหมายทำกำไรล่วงหน้า โดยไม่หวังกำไรสูงสุด โดยคำนึงถึงความเสี่ยงควบคู่กับผลตอบแทน
หลักการของบัฟเฟตต์ ได้รับการยอมรับว่าถูกต้อง แต่ก็มีน้อยคนในโลกนี้จะสามารถสร้างความมั่งคั่งจากการลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียวได้เทียบเท่ากับเขาในยุคสมัยนี้ แต่ก็นั่นแหละ ไม่ใช่ว่าคนอย่างเขาจะไม่เคยพลาดเอาเสียเลย
สาระในหนังสือเล่มนี้จึงเป็นบทเรียนที่เกิดขึ้นต่างกรรม ต่างวาระของราชาหุ้นแห่งวอลล์สตรีตร่วมสมัย ที่ต้องอ่านกัน และเอาไว้เตือนสติ เพราะในความง่ายที่ผู้เขียนรวบรวมเอาไว้นี้ บางครั้งมันก็อาจจะทำให้คนอ่านเชื่อว่า เรื่องมัน "ง่ายไปหมด" ด้วย ความจริงแล้วตรงกันข้ามเลย
ถ้าจะให้ดี อ่าน The New Buffetology ซึ่งมีแปลเป็นไทยแล้วในชื่อว่า ลงทุนอย่าง...วอร์เรน บัฟเฟตต์ ควบคู่ไปด้วย เพราะหนังสือเล่มที่ว่านี้ ค่อนข้างละเอียดกว่า แต่อ่านเข้าใจยากกว่า ซึ่งอาจจะเสียเวลาไปมากพอสมควร แต่ก็นับว่าใช้การได้ดีเพื่อความรอบคอบ เพราะหนังสือที่ไม่ได้เกิดจากเจ้าตัวเขียนเอง มันอาจจะขาดตกบกพร่องไปได้มากเหมือนกัน
นักลงทุนที่อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ต้องเตือนสติตัวเองเสมอว่า นอกจากคู่มือของบัฟเฟตต์นี้แล้ว ยังมีสูตร 80/20 ของพาเรโตอยู่ด้วย ซึ่งบอกให้เรารู้ว่าโอกาสเจ๊งหุ้นนั้นมีอยู่ 80% และโอกาสรวยหุ้นนั้นมีอยู่แค่ 20% เท่านั้น
การอ่านหนังสือก็เหมือนการเรียนว่ายน้ำทางไปรษณีย์นั่นเอง ยังไม่ทำให้ใครรวยได้ ต้องลงมือปฏิบัติเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไรกันแน่
รายละเอียดในหนังสือ
The Warren Buffett Way สรุปอย่างย่นย่อถึง 10 กลยุทธ์การลงทุนพื้นฐานสไตล์บัฟเฟตต์
Chapter 1 Choose Simplicity over Complexity แนะนำว่า เวลาตัดสินใจจะเข้าซื้อหุ้น จะต้องเลือกหุ้นที่เข้าใจง่าย พื้นฐานบริษัทชัดเจนในเรื่องสินค้า ที่มาของรายได้ ผลประกอบการและการบริหาร ไม่ใช่เลือกเอาหุ้นที่ลึกลับ คาดเดาไม่ได้เลย
Chapter 2 Make Your Own Investment Decisions การฟังคนอื่นมากเกินไป เพราะขาดความเชื่อมั่น เป็นการลงทุนที่ผิด นักลงทุนที่ดีต้องเชื่อมั่นตัวเอง และตัดสินใจด้วยตัวเองหลังจากเข้าใจข้อมูลบริษัทรอบด้านแล้ว หากยังไม่มั่นใจอย่าลงทุน เพราะตลาดหุ้นดำเนินการทุกวัน
Chapter 3 Maintain Proper Temperament อย่าได้หวือหวาตามกระแสของนักลงทุนคนอื่น และอย่าได้ใส่ใจกับราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นลงหวือหวาในช่วงสั้นๆ โดยมีพื้นฐานรองรับไม่เพียงพอ
Chapter 4 Be Patient ไม่ต้องเร่งร้อน ศึกษาหุ้นแต่ละตัวต้องใช้เวลา คิดสิบปีแล้วลงทุนซื้อแล้วมีกำไร ย่อมดีกว่าคิด 10 นาทีซื้อแล้วขาดทุนภายหลัง ระลึกเสมอว่าเวลานั้นเป็นได้ทั้งมิตรและศัตรูของนักลงทุน
Chapter 5 Buy Businesses, Not Stocks การซื้อหุ้นต้องคิดเสมอว่า กำลังเข้าสู่ธุรกิจ ไม่ใช่ "เล่นหุ้น" ธุรกิจไหนที่ยากจะเข้าใจธรรมชาติ ต้องหลีกให้ห่าง และต้องศึกษาอนาคตของธุรกิจให้ดีว่าเป็นขาขึ้นหรือลง เนื่องจากธุรกิจจะไม่ผันผวนรวดเร็วเหมือนราคาหุ้น
Chapter 6 Look for a Company That is a Franchise เข้าซื้อหุ้นในบริษัทที่เป็นผู้นำธุรกิจ และมีอำนาจการแข่งขันสูงในธุรกิจนั้น โดยดูจากข้อมูลในอนาคตในเรื่องความต้องการเพิ่มทุน ความโปร่งใสของธุรกิจ และสินค้ามีราคาเคลื่อนไหวเสรี
Chapter 7 Boy Low-Tech, Not High-Tech ลงทุนในหุ้นบริษัทที่คาดเดาผลประกอบการในอนาคตได้ง่าย และมีการเติบโตกับกำไรที่เสถียร ไม่ใช่เติบโตอย่างหวือหวาแบบจรวด หรือแสงเลเซอร์ หรือบริษัทที่มีเป้าหมายโตเร็วโดยไม่สนใจผลกำไร
Chapter 8 Concentrate Your Stock Investments ลงทุนอย่างมีเป้าหมายชัดเจนและจำกัด อย่าเหวี่ยงแหสร้างพอร์ตโฟลิโอแบบจับฉ่ายไปหมด ซึ่งจะมีต้นทุนสูงและผลตอบแทนต่ำ
Chapter 9 Practice Inactivity, Not Hyperactivity อย่าซื้อขายหุ้นบ่อยครั้ง เพราะมันคือต้นทุน และแสดงความไม่รอบคอบในการซื้อขาย การลงทุนไม่ใช่การเล่นสนุก แต่ต้องหวังกำไร
Chapter 10 Don't Look at the Ticker อย่าซื้อหุ้นที่ราคาต่ำ แต่ให้ซื้อหุ้นที่ราคาถูก ซึ่งหมายความถึงราคาเปรียบเทียบตามสัดส่วนทางการเงินแล้วถือว่าต่ำใกล้พื้นฐานมากที่สุด และมีโอกาสขึ้นมากกว่าลง โดยไม่จำเป็นต้องดูราคาหุ้นทุกวัน
Chapter 11 View Market Downturns as Buying Opportunities อย่าเข้าซื้อเมื่อวันดัชนีวิ่งแรง เพราะมันคือความเสี่ยง แต่ให้แปลงวิกฤติเป็นโอกาสโดยเลือกซื้อหุ้นที่กำลังร่วงลงมาถึงเขตขายมากเกิน
Chapter 12 Don't Swing at Every Pitch ไม่จำเป็นต้องเล่นรอบกับดัชนีทุกๆ รอบ เพราะมันหมายถึงการเก็งกำไรระยะสั้นมาก ที่มีความเสี่ยงสูง
Chapter 13 Ignore the Macro ; Focus on the Micro นึกเสมอว่า เรากำลังซื้อหุ้นบริษัทไม่ใช่ซื้อขายดัชนีตลาด หรือตัวเลขจีดีพีของประเทศ ดังนั้น พึงใส่ใจกับตัวหุ้นที่เราสนใจให้ละเอียดในเรื่องพื้นฐานและการแกว่งของราคาควบคู่ไป ปล่อยหน้าที่เป็นของนักวิเคราะห์และสื่อมวลชนในเรื่องอื่นๆ
Chapter 14 Take a Close Look at Management ระบบการจัดการภายในบริษัทเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเอาใจใส่ บริษัทที่มีธรรมาภิบาลที่ดีจะมีผลประกอบการที่สวยหรูตามไปด้วย
Chapter 15 Remember, The Emperor Wears no Clothes on Wall Street นักวิเคราะห์ไม่ใช่ศาสดาที่ควรฝากชีวิตเอาไว้ตลอดไปในทุกเรื่อง ควรพึ่งตัวเองเป็นหลัก คำแนะนำให้ซื้อ-ถือ-ขาย เป็นแค่ความเห็น ไม่ใช่คำสั่ง
Chapter 16 Practice Independent Thinking ควรฝึกวิธีคิดอย่างเป็นอิสระด้วยตัวเองเสมอ เพื่อจะได้ไม่วอกแวกไปกับกระแสของนักลงทุนอื่นๆ จนลนลานกลายเป็นกระต่ายตื่นตูม
Chapter 17 Stay within Your Circle of Competence ต้องฝึกฝนความชำนาญโดยการเรียนรู้จากของจริงเกี่ยวกับเข้าซื้อ หรือออกจากราคาหุ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง ว่าจะไม่หลุดกระแสการแสวงหากำไร
Chapter 18 Ignore Stock Market Forcasts การเก็งอนาคตระยะสั้น ไม่ได้บอกอะไรมากไปกว่าบอกให้ทราบถึงนิสัยการลงทุนของตัวนักวิเคราะห์เอง พึงใส่ใจ และไม่ต้องเชื่อ อย่าให้บทวิเคราะห์มีอิทธิพลต่อการลงทุนของคุณ
Chapter 19 Understand "Mr.Market" and the "Margin of Safety" ความสามารถในการผสมผสานข้อมูลพื้นฐานของบริษัทที่เป็นเจ้าของหุ้น ควบคู่กับความผันผวนของแรงซื้อ-ขายในตลาดหุ้นที่เกิดจากอารมณ์ร่วมของนักลงทุน
Chapter 20 Be Fearful When Others Are Greedy and Greedy When Others Are FearFul อย่าหลงกลเล่นหุ้นตามกระแสแห่ตามกัน พยายามฝึกฝนการเล่นหุ้นแบบทวนกระแสให้ช่ำชอง เพราะการเก็งกำไรคือการบริหารความกลัวคู่กับความโลภ
Chapter 21 Read, Read Some More, and Then Think การหาข้อมูลธุรกิจ (ไม่ใช่หุ้น) อย่างต่อเนื่อง รอบรู้ และลุ่มลึก จะเป็นตัวแปรสำคัญที่เพิ่มพูนความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น
Chapter 22 Use All Your Horsepower ใช้ความสามารถในตัวเองอย่างเต็มที่ เพราะการลงทุนไม่ใช่การเล่นเดิมพัน แต่เป็นการแสวงหากำไร เหมือนการทำธุรกิจทั่วๆ ไป โดยนักลงทุนต้องตั้งคำถามตัวเองเสมอว่า ทำสิ่งที่สมควรทำไปแล้วอย่างไรบ้าง
Chapter 23 Avoid the Costly Mistakes of Others การศึกษาบทเรียนจากความผิดพลาดของนักลงทุนอื่น เป็นเรื่องจำเป็น ไม่ใช่เพื่อจับผิด หรือหัวเราะเยาะ แต่เพื่อนำมาเป็นบทเรียน และระวังตัว
Chapter 24 Become a Sound Investor ตั้งเป้าหมายเป็นนักลงทุนที่สง่างามและมีกำไร อย่าเป็นเพียงแค่มือสมัครเล่น หรือแมลงเม่าเท่านั้น โดยปรับปรุงความสามารถให้ยกระดับขึ้นต่อเนื่อง อย่าทิ้งขว้างเมื่อผิดหวังในบางครั้ง
|
|
|
|