|
new releases
Manager 360 aStore
|
|
|
|
|
Empire of Debt
ผู้เขียน: Bill Bonner, Addison Wiggin
ผู้จัดพิมพ์: John Wiley & Sons
จำนวนหน้า: 370
ราคา: $27.95
buy this book
|
|
|
|
จักรวรรดิแห่งหนี้
Bill Bonner และ Addison Wiggin ผู้แต่งซึ่งเป็นนักเขียนด้านการเงิน รู้สึกอึ้งต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จากที่ "นักอนุรักษนิยม" ในสหรัฐฯ เคยเชื่อในเสรีภาพทางเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายงบประมาณอย่างประหยัด แต่มาวันนี้ พวกอนุรักษนิยมกลับสนับสนุนการใช้จ่ายงบประมาณขาดดุลแบบไม่มีการฉุดรั้ง และสนับสนุนการเสี่ยงภัยทางทหาร ผู้แต่งยังชี้ด้วยว่า "จักรวรรดิอเมริกัน" กำลังดิ่งลงสู่การล้มละลาย
ผู้แต่งได้เปรียบเทียบผู้บริโภคชาวอเมริกัน ตลอดจนนักเศรษฐศาสตร์ นักการเมือง นักลงทุนและนักธุรกิจอเมริกัน ซึ่งนับเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เป็นเหมือนตัวตลกหรือคนเบาปัญญา ที่ต้องพึ่งพาเงินออมของคนจนในจีน เพื่อนำมาจ่ายค่าใช้จ่ายไปวันๆ เพราะขณะนี้ การประหยัดอดออมและความพอเพียงรู้จักประมาณตนของชาวอเมริกันในยุคแรกๆ แห่งการก่อตั้งประเทศ ได้ถูกแทนที่ด้วยระบบแห่งความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ซึ่งประกอบไปด้วยความทรนงถือดี การหลอกลวง หนี้สิน และความหลงผิด
จักรวรรดินิยมและนักนิยมจักรวรรดิ
สหรัฐฯ ได้เดินเข้าสู่การเป็นจักรวรรดิเหมือนกับจักรวรรดิโรมัน และพร้อมที่จะล่มสลายไปเช่นเดียวกันด้วยการคอร์รัปชันและความฟุ้งเฟ้อที่เกิดจากภายใน ปัจจัยหนึ่งที่ผู้แต่งทั้งสองชี้ว่า จะนำไปสู่ความล่มสลายของจักรวรรดิอเมริกันก็คือ การที่สหรัฐฯ ในขณะนี้กำลังมีนักจักรวรรดิ นิยมอยู่เต็มเมือง ผู้แต่งอธิบายว่านักจักรวรรดินิยม (imperialist) คือคนที่เชื่อว่า ระบบวัฒนธรรม สังคม เศรษฐกิจและการเมืองของตน รวมทั้งตัวพวกเขาเองเหนือกว่าระบบของคนอื่นๆ และพวกเขามีสิทธิ์ที่จะเที่ยวสั่งสอนใครต่อใครให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้
แต่ผู้แต่งเตือนว่า แท้จริงแล้ว จักรวรรดิเป็นเพียงการผูกขาดอำนาจ ซึ่งธรรมชาติจะยอมทนกับการผูกขาดนี้เพียงชั่วระยะหนึ่ง แต่ไม่ช้าก็เร็ว ชาวจักรวรรดิก็จะต้องกลับคืนสู่ความเป็นคนธรรมดา และความเชื่อที่ว่า พวกเขาเหนือกว่าคนอื่น ก็จะต้องสลายไป
เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างมักจะถอยกลับไปสู่จุดสมดุลเสมอ ดังนั้นเราจึงอาจคาดการณ์ได้ว่า เมื่อเอเชียเริ่มเจริญรุ่งเรือง ก็ถึงเวลาที่สหรัฐฯ จะต้องตกต่ำ ผู้แต่งชี้ว่า ขณะนี้ชาวอเมริกันกำลังกู้หนี้ยืมสินและใช้จ่ายกันอย่างฟุ่มเฟือย รวมทั้งลงทุนโดยไม่สนใจบทเรียนจากอดีต และเนื่องจากทุกอย่างมีขึ้นมีลงตามวัฏจักร "จักรวรรดิอเมริกัน" ก็ย่อมหนีไม่พ้นกฎข้อนี้ ในขณะที่เศรษฐกิจปัจจุบันของสหรัฐฯ กำลังอยู่ที่ยอดสูงสุดของจักรวรรดิแล้ว ซึ่งหมายถึงว่า จากนี้ไปเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลง โดยหลักฐานที่บ่งชี้ก็คือการที่สหรัฐฯ บุกอิรักเมื่อ 3 ปีก่อน ด้วยความเชื่ออย่างผิดๆ ว่า หากพวกเขาสามารถกำจัดเผด็จการคนหนึ่งออกไปจากอิรักได้แล้ว ในทันทีนั้น ชาวอิรักจะสามารถ "เริ่มสร้างห้างสรรพสินค้า และผู้หญิงอิรักจะลุกขึ้นมาแต่งตัวแบบ Britney Spears กันหมด"
วัชพืชจักรวรรดินิยม
ผู้แต่งเปรียบเทียบประชาธิปไตยของอเมริกาว่าเหมือน "ดอกไม้ที่บอบบาง" ซึ่งปลูกเมื่อหลายร้อยปีก่อน โดยเหล่าบิดาผู้ก่อตั้งประเทศ แต่ขณะนี้แผ่นดินสหรัฐฯ กำลังมี "วัชพืชแห่งจักรวรรดินิยม" ขึ้นอยู่เต็ม และปกคลุมพื้นดินของสหรัฐฯ ในศตวรรษที่ 21 นี้
ข้อมูลหลักฐานอย่างหนึ่งที่ผู้แต่งระบุว่า ชี้ให้เห็นถึงความฟุ้งเฟ้อและความเปลืองเปล่าของระบบอเมริกันในปัจจุบันคือ การที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ เสียค่าใช้จ่ายไปกับการวางระเบียบกฎเกณฑ์ถึง 8 แสน 7 หมื่น 7 พันล้านดอลลาร์ เมื่อบวกกับค่าใช้จ่ายของรัฐบาลอีก 2 ล้าน 2 แสน 9 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์ ก็ทำให้ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีสัดส่วนถึงร้อยละ 27 ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
เนื่องจากจักรวรรดิทุกแห่งจะต้องล่มสลายไปในที่สุด โดยเกิดจากการทำลายตัวมันเอง ผู้แต่งจึงทำนายว่า หนี้จำนวนมหาศาลคือสิ่งที่จะทำลายจักรวรรดิอเมริกัน ผู้แต่งยังตำหนิความเชื่อมั่นมากเกินไปของสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์ พันธบัตรรัฐบาล หุ้น และราคาบ้านที่ผันผวนในสหรัฐฯ และชี้ด้วยว่า "ความผิดพลาด" ของอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ การขาดดุลการค้าอย่างต่อเนื่องของสหรัฐฯ รวมทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนและประเทศอื่นๆ ล้วนแต่บ่งชี้ถึงหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และคำแนะนำสุดท้ายที่ผู้แต่งให้ไว้ก็คือ "จงซื้อทองคำ"
|
|
|
|