Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 



new releases
Manager 360 aStore






 
How Would You Move Mount Fuji?
ผู้เขียน: William Poundstone
ผู้จัดพิมพ์: Little, Brown, and Company
จำนวนหน้า: 276
ราคา: ฿620
buy this book

หากคุณเข้าไปสอบสัมภาษณ์เพื่อทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ถูกผู้สัมภาษณ์ซึ่งคงเป็นพนักงานฝ่ายทรัพยากรบุคคล หรือ HR ถามคำถามประเภท "ในการแข่งขันเทนนิสครั้งหนึ่งมีนักกีฬาเข้าร่วมแข่ง 127 คน แสดงว่าคุณมีคู่แข่งขัน 126 คน และมีการแข่งขัน 63 แมตช์ โดยมีคนหนึ่งได้บายไม่ต้องแข่ง หากคุณผ่านรอบแรกไปได้ รอบต่อไปจะมีนักเทนนิสเหลืออยู่ 64 คน และมีการแข่งขันอีก 32 แมตช์ ถามว่า เหลืออีกกี่แมตช์ จึงจะจะหาตัวผู้ชนะเลิศได้?" คุณจะตอบอย่างไร

ข้างต้นอาจจะยากไปสักนิด แต่บางคำถามก็อาจจะง่ายจนคาดไม่ถึง และตอบยาก เช่น ทำไมเวลาส่องกระจกจึงกลับด้านจากขวาเป็นซ้าย และซ้ายเป็นขวา? แต่ไม่กลับด้านจากบนเป็นล่างและล่างเป็นบน?

หรือไม่ก็ หากคุณสามารถเคลื่อนย้ายรัฐใดรัฐหนึ่งของอเมริกาได้ คุณจะเลือกย้ายรัฐไหนดี? คุณจะใช้เวลาเท่าไรถึงเคลื่อนย้ายภูเขาฟูจิได้?

หรือ ทำไมท่อถึงกลม ไม่เป็นสี่เหลี่ยม?

อีกคำถามหนึ่ง หากคุณมีเหรียญอยู่ 8 อัน ในนั้นมี 1 เหรียญที่เบากว่าเหรียญอื่น คุณต้องหาให้ได้จากการสุ่มชั่งน้ำหนัก แค่ 2 ครั้ง...ได้หรือไม่?

คำถามเหล่านี้ คนที่ถูกถามอาจจะอึ้ง ทึ่ง และรู้สึกว่าคนถามกำลังกวนโอ๊ยก็ได้ทั้งนั้น แต่นี่ไม่ใช่คำถามธรรมดา

นี่คือสิ่งที่พนักงานของไมโครซอฟท์จะต้องผ่านด่านการตรวจสอบเช่นนี้ เพราะหนังสือเล่มนี้กำลังให้รายละเอียดที่น่าสนใจ ถึงกระบวนวิธีการการคัดเลือกคนแบบไม่ซ้ำแบบใคร

ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นนักเขียนที่ช่ำชองเรื่องคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เคยเขียนงานที่โด่งดังมาแล้ว การที่เขาหันมาให้ความสนใจกับวิธีการตั้งคำถามปริศนาแบบทดสอบไอคิวและอีคิวของผู้เข้าสมัครงาน จึงน่าสนใจ

สิ่งที่ผู้เขียนพบก็คือว่า คำถามเชิงปริศนาทั้งหลายแหล่ที่ถูกตั้งขึ้นมานี้ ไม่ได้ต้องการคำตอบที่ถูกต้องเสมอไป และไม่ได้วัดที่คำตอบที่ถูกต้อง แต่กำลังค้นหาความสามารถในการงัดเอาความคิดสร้างสรรค์ของคนที่เข้าสอบสัมภาษณ์ เพื่อดูว่าศักยภาพในกระบวนการคิดนั้นจะสามารถพัฒนาได้ในอนาคตมากน้อยเพียงใด

คำถามทั้งง่ายและยากปะปนกันในกระบวนการสัมภาษณ์ของไมโครซอฟท์นั้น เป็นกระบวนการทดสอบที่ถือว่าน่าสนใจอย่างมาก เพราะเกี่ยวข้องกับการใช้ตรรกะ การใช้จิตสำนึกในระดับ "รู้" โดยไม่ต้องรู้อย่างไร

กระบวนการเช่นนี้ถือว่าแตกต่างจากวิธีการทั่วไปของการรับสมัครพนักงานของบริษัททั่วไป ที่มักจะพบว่า กติการับสมัครพนักงานนั้น ท้ายที่สุด ก็ได้พนักงานที่มีความสามารถปานกลางเท่านั้น ไม่สามารถควานหา "ดาวรุ่ง" เข้ามาประดับทีมงานได้มากนัก

หนังสือเล่มนี้อธิบายว่า คำถามส่วนใหญ่ในการสัมภาษณ์ผู้เข้าสมัครงาน มักจะวนเวียนกับ 2 เรื่องหลักคือ 1. คำถามตามธรรมเนียม 2. คำถามเชิงพฤติกรรมศาสตร์ ซึ่งไมโครซอฟท์เห็นว่าไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงทดลองสร้างคำถามเชิงปริศนาด้วยตรรกะ ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถวินิจฉัยบุคลิกและความสามารถทางสมองของคนได้รวดเร็วและทรงประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

ทางเลือกของไมโครซอฟท์ในฐานะบริษัทที่มีนวัตกรรมทางด้านซอฟต์แวร์สูง จึงต้องค้นหากระบวนการที่จะทำให้ได้มาซึ่งพนักงานใหม่ที่เป็นดาวรุ่งได้ดีกว่า และที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าได้ผลมากทีเดียว

ที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ ไม่ว่าคนอ่านจะสมัครงานกับไมโครซอฟท์หรือไม่ สิ่งที่ได้จากการทำความเข้าใจกระบวนการทดสอบทางสติปัญญาแบบแปลกๆ เช่นนี้ถือเป็นความท้าทายทางปัญญา

จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ก็อยู่ที่การรวบรวมเอาคำถามยุ่งยากแต่สนุกสนานมาประมวลเข้าไว้ ซึ่งจะช่วยให้คนอ่านสามารถเตรียมตัวเพื่อเรียนรู้ว่า ที่มาของโจทย์เกิดจากอะไร และมีกระบวนการสร้างโจทย์ขึ้นอย่างไรบ้าง เพราะการเข้าใจที่มาของโจทย์ก็คือ การค้นพบคำตอบนั่นเอง ถึงแม้ว่าคำตอบที่เกิดขึ้น อาจจะผิดก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต

หนังสือเล่มนี้มีอยู่ 9 บท กับแถมท้ายอีกบทหนึ่ง ว่าด้วยแนวคำตอบสำหรับโจทย์เชิงปริศนา

บทที่โดดเด่นในหนังสือนี้ ดูเหมือนจะอยู่ที่บทที่ 3 ว่าด้วย บิลล์ เกตส์ และวัฒนธรรมการสร้างปริศนา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ความยิ่งใหญ่ของอัจฉริยะของเขานั้น ไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่เกิดจากความเข้าใจในจิตวิทยาของมนุษย์อย่างลึกซึ้งด้วยเช่นกัน

ในขณะที่บทแถมท้ายว่าด้วย Answers เป็นบทที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เพราะเป็นแนวทางเฉลยโจทย์ที่มีรายละเอียดมากมาย ได้ทั้งไอคิวและอีคิวผสมกัน

ผู้เขียนมีความสามารถพิเศษที่ให้คำอธิบายถึงช่องว่างระหว่างโจทย์และเจตนารมณ์ของผู้ตั้งโจทย์ พร้อมกับให้คำอธิบายเพิ่มเติมให้เห็นว่า ลักษณะของโจทย์โยงใยไปถึงวัฒนธรรมองค์กรสมัยใหม่แบบไมโครซอฟท์ได้อย่างไรบ้าง

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือ ผู้อ่านจะเริ่มเรียนรู้ว่ากระบวนการคัดเลือกพนักงานด้วยการตั้งคำถามต่างๆ นั้น ไม่ว่าจะสมบูรณ์แบบหรือหละหลวมเพียงใด ก็จะได้รับการปรับปรุงขึ้น หากว่าได้ใช้กรรมวิธีเชิงปริศนาเพื่อหาไอคิวและอีคิวของผู้รับการคัดเลือก

เมืองไทยอาจจะไม่มีบริษัทอย่างไมโครซอฟท์ แต่บางบริษัทอาจจะนำเอาวิธีการนี้ไปทดลองใช้บ้าง คงไม่แปลกอะไร ซึ่งหนังสือเล่มนี้ให้คำตอบได้ไม่น้อยเลย คุ้มค่าอย่างมาก

รายละเอียดในหนังสือ

Chapter 1 The Impossible Question ว่าด้วยการจำแนกและ ที่มาที่แตกต่างออกไปของวิธีการสัมภาษณ์แบบไมโครซอฟท์ และคำถามของฝ่ายทรัพยากรบุคคลบริษัททั่วๆ ไป

Chapter 2 The Termans and Silicon Valley ว่าด้วยปรัชญา การสร้างทีมงานของบิลล์ เกตส์ ที่เน้นความฉลาดมากกว่าความชำนาญ และประสบการณ์ ด้วยคำถามประเภท "คุณฉลาดหรือเปล่า? และฉลาดแค่ไหน?" ซึ่งเน้นความสำคัญของไอคิวในฐานะความสามารถในการคิดเชิงนามธรรมอย่างมีเหตุมีผลเป็นพิเศษ ด้วยการผสมผสานกรรมวิธีทดสอบไอคิว เข้ากับการตั้งคำสัมภาษณ์ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล

Chapter 3 Bill Gates and the Culture of Puzzles เมื่อบิลล์ เกตส์ เติบโตมากับการเล่นเกมและปริศนาจนกลายเป็นอัจฉริยะคอมพิวเตอร์ เราจึงไม่รีรอที่จะนำเอารสนิยมของเขามาเป็นวัฒนธรรมองค์กรในการรับสมัครทีมงาน เพื่อทดสอบทั้งไอคิวและอีคิวของพนักงานใหม่ เพื่อป้องกันคนประเภท "โหงวเฮ้งดี งานไม่เดิน" หรือ "งานดี โหงวเฮ้งแย่" ในทีมงาน เช่น การสร้างแคมป์คณิตศาสตร์ เพื่อสร้างกระบวนการคิดนอกกรอบขึ้นมา เช่น การสร้างระบบนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อสู้กับนักตรวจสอบผลิตภัณฑ์

Chapter 4 The Microsoft Interview Puzzles ว่าด้วยกระบวนการสร้างคำถามเชิงปริศนาของไมโครซอฟท์ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากความคิดอิสระภายในกรอบของเกมคณิตศาสตร์และไม่จำกัด สาขาความรู้ที่เปิดช่องให้พนักงานส่งเข้ามาร่วมสนุก หลังจากอาหารกลางวันภายในวันทำงานทุกวัน เพื่อแข่งขันว่าจะมีคำถามไหนที่ใหม่กว่าและแปลกกว่า ผลลัพธ์คือมีคำถามใหม่ๆ มากมาย ในคลังข้อมูลคำถาม สิ่งที่บริษัทอื่นที่พยายามเลียนแบบทำไม่ได้ก็คือ หลายบริษัทมุ่งสนใจคำตอบ แต่ไมโครซอฟท์ไม่สนใจคำตอบ

Chapter 5 Embracing Cluelessness ว่าด้วยวิธีการแก้โจทย์ด้วยกระบวนการแบบสร้างหุ่นยนต์หรือ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งจะศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ว่า มนุษย์มีกระบวนวิธีการตอบสนองและแก้ปัญหาอย่างไร เพื่อสร้างโปรแกรมสำเร็จรูปขึ้นมา โดยไม่ต้องอาศัยประสบการณ์คือ เงื่อนปมเก่าๆ โดยพยายามข้ามสมมุติฐานที่ว่ามนุษย์มีจุดอ่อนในเรื่องการรับมือความไม่แน่นอน แต่มุ่งไปสู่การบรรลุเป้าหมาย "เปลี่ยนกระบวนทัศน์"

Chapter 6 Wall Street and the Stress Interview เมื่อวอลล์สตรีทนำเอาวิธีการของไมโครซอฟท์ไปรับสมัครพนักงานใหม่ในชื่อใหม่ ด้วยวิธีการที่เปลี่ยนไปบ้าง เช่น ห้ามผู้สมัครงานและสัมภาษณ์พูดคุยกันนาน 5-10 นาที ซึ่งดูได้ผลดีและแพร่หลาย มากในปัจจุบัน

Chapter 7 The Hardest Interview Puzzles ตัวอย่างคำถามที่ตอบยาก และไม่ต้องการคำตอบที่ถูกต้อง ซึ่งได้ผลดีในการบอก บุคลิกของผู้สมัครงานออกมาได้ดี เช่น ทำไมกระป๋องเบียร์จึงสอบหัวและท้าย?

Chapter 8 How to Outsmart the Puzzle Interview คำแนะนำ 9 วิธีในการเตรียมความพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์เชิงปริศนา

Chapter 9 How Innovative Companies Ought to Interview เหตุผล 11 ข้อที่สนับสนุนว่าเหตุใดบริษัทที่ต้องการพนักงานมีนวัตกรรมสูง ต้องใช้วิธีการสัมภาษณ์ด้วยคำถามเชิงปริศนา เพื่อ ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนกระบวนทัศน์หลังจากรับมือกับปริศนาไปแล้ว โดยผ่านการสร้างอัลกอริธึ่ม

Answers การเฉลยคำตอบสำหรับโจทย์เชิงปริศนาทั้งหมด ที่มีอยู่ในหนังสือ ซึ่งผสมความคิดที่หลากหลายและไม่มีคำตอบสำเร็จรูปตายตัวให้



upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide



 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us