| |
new releases
Manager 360 aStore
|
|
| |
|
 |
The Only Sustainable Edge
ผู้เขียน: John Seely Brown, John Hagel III
ผู้จัดพิมพ์: Harvard Business School Press
จำนวนหน้า: 218
ราคา: $25.00
buy this book
|
|
|
 |
ความได้เปรียบที่ยั่งยืน
ผู้แต่งทั้งสองคือ John Hagel III นักกลยุทธ์ธุรกิจ และ John Seely Brown ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารนวัตกรรมชี้ว่า วิธีเดียวที่จะทำให้บริษัทมีความได้เปรียบที่ยั่งยืนคือ การทำให้องค์กรมีความสามารถในการทำงานร่วมกับบริษัทอื่นๆ ที่มีความชำนาญพิเศษเฉพาะด้านในขั้นสูง ซึ่งเป็นวิธีที่จะทำให้องค์กรของคุณสามารถปรับปรุงการทำงานได้อย่างรวดเร็ว
การจะทำให้องค์กรของคุณปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างรวดเร็ว คุณควรนำเทคโนโลยีรุ่นใหม่ๆ มาใช้, ใช้ประโยชน์จากความสามารถพิเศษขององค์กรอื่นๆ ไม่ว่าองค์กรนั้นจะอยู่ที่ใดในโลก อย่างเช่นองค์กรในตลาดเกิดใหม่อย่างจีนและอินเดีย ซึ่งมีวิธีเสริมสร้างและเพิ่มพูนความสามารถขององค์กร ในแบบใหม่ๆ, การจ้างบริษัทภายนอกให้จัดการงานบางส่วนที่มีความสำคัญน้อยกว่า เพื่อให้ประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กรดีขึ้น, และการเน้นกิจกรรมในต่างประเทศในที่ที่คุณมั่นใจว่า จะสามารถเข้าถึงทรัพยากรบุคคลที่ดีที่สุดได้
ผู้แต่งชี้ว่า บริษัททุกวันนี้จำเป็นต้องตระหนักว่า หากต้อง การเพิ่มประสิทธิภาพของบริษัทให้ได้อย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องอาศัยการรวมเอาความสามารถพิเศษของบริษัทอื่นๆ มาใช้ ซึ่งหมายถึงการที่จะต้องทำงานร่วมกับคนในองค์กรอื่นๆ เพื่อเพิ่มพูน ประสิทธิภาพของบริษัทและสร้างคุณค่าใหม่ อย่างเช่น การค้นพบวิธีใหม่ๆ ในการใช้ทรัพย์สินทั้งทางกายภาพและทางปัญญา (เช่นลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร) ที่บริษัทมีอยู่ ซึ่งหมายถึงการค้นพบความสามารถใหม่ของบริษัท อันจะทำให้ทรัพย์สินที่บริษัทมีอยู่มีคุณค่ามากขึ้น
ปะทะสังสรรค์
ผู้แต่งชี้ว่า มีองค์ประกอบ 3 อย่างที่จำเป็นสำหรับการเพิ่มพูนประสิทธิภาพของบริษัทให้ได้อย่างรวดเร็ว ได้แก่ ความเชี่ยวชาญพิเศษ การร่วมมือกับบริษัทอื่น และการเสริมสร้างความสามารถโดยไม่ยึดติดอยู่เพียงขอบเขตภายในองค์กร
เมื่อได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม องค์ประกอบทั้งสามนี้จะช่วยสร้างภาวะที่พร้อมจะทำงานได้ทุกเมื่อให้เกิดขึ้นในบริษัท และผู้แต่งชี้ด้วยว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ รูปแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจของโลกจะเป็นไปในรูปแบบใดนั้น จะขึ้นอยู่กับการจัดการองค์ประกอบทั้งสามดังกล่าว ซึ่งสามารถที่จะกระตุ้นให้ เกิดนวัตกรรมเพิ่มขึ้นทั้งในทางสร้างสรรค์และทำลาย
เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับบริษัทอื่นๆ อย่างได้ผล ผู้แต่งชี้ว่า บริษัทจะต้องมีความเชี่ยวชาญในการ ใช้กลไกการปะทะสังสรรค์อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นกลไกที่จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ จากการที่คนที่มีภูมิหลัง ต่างๆ กัน ได้มาทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาอย่างใด อย่างหนึ่งในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ผลที่ได้จะมีคุณค่าสูงสุด เพราะการมองต่างมุมของกลุ่มคนเหล่านั้นต่อปัญหาใดปัญหาหนึ่ง จะทำให้สามารถมองเห็นทางออกของปัญหาที่เป็นไปได้หลายๆ ทาง
ความเชี่ยวชาญพิเศษ
ผู้แต่งชี้ว่า บริษัทในตลาดเกิดใหม่ได้เริ่มลงมือเสริมสร้างองค์กรให้มีความชำนาญพิเศษแล้ว และในอนาคตอันใกล้ เราคงจะได้เห็นความก้าวหน้าของการ ปรับปรุงประสิทธิภาพองค์กรครั้งใหญ่ในระดับโลก
อย่างเช่นอินเดียได้ริเริ่มตั้งเป้าที่จะเป็นผู้เชี่ยว ชาญในการรักษาเฉพาะโรค เพื่อให้คนไข้สามารถเข้าถึงการรักษาที่ดีกว่าแต่ในราคาที่ถูกลง และเพื่อบรรลุเป้าหมายใหญ่นี้ อินเดียได้ลงทุนออกแบบสถาบันด้านการรักษาพยาบาลของตนใหม่หมด อย่างเช่น สถาบัน โรคหัวใจ Narayana Hrudayalaya ในเมือง Bangalore และผลการศึกษาในอินเดียเมื่อเร็วๆ นี้ได้ทำนายว่า การท่องเที่ยวแบบใหม่ที่นักท่องเที่ยวมีเป้าหมายเพื่อเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพในราคา ที่ไม่แพงในอินเดีย จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่อินเดีย ได้ถึงปีละ 2 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2012
ผู้แต่งชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นในอินเดีย คือตัวอย่างที่แสดงว่า บัดนี้การพยายามสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้า กำลังย้ายจากตลาดสินค้าและตลาดการเงิน ไปยังตลาดทรัพยากรมนุษย์ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ ดังนั้น ความสามารถของบริษัทในอันที่จะดึงดูด รักษา และสร้างบุคลากรที่มีความสามารถพิเศษ จะเป็นการสร้างความได้เปรียบที่ยั่งยืนให้แก่บริษัท
|
 |
|
|
