| |
new releases
Manager 360 aStore
|
|
| |
|
 |
Make It Work
ผู้เขียน: Joe Frodsham, Bill Gargiulo
ผู้จัดพิมพ์: Davies-Black
จำนวนหน้า: 176
ราคา: $18.95
buy this book
|
|
|
 |
ก้าวหน้าได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนงาน
มีคนจำนวนมากตัดสินใจลาออกจากบริษัทที่ทำอยู่ เพราะรู้สึกว่างานที่ทำอยู่นั้นมีปัญหาและอุปสรรค ที่ไม่เปิดโอกาสให้ได้พัฒนาตัวเองจนเต็มศักยภาพที่มีอยู่ ทำให้หน้าที่การงานย่ำอยู่กับที่ไร้ความก้าวหน้า
แต่ผู้ประพันธ์คือ Joe Frodsham ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นผู้นำ และ Bill Gargiulo ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรมนุษย์ ชี้ว่า การลาออกหาใช่วิธีแก้ปัญหาดังกล่าว ตรงข้าม คนที่เปลี่ยนงานจำนวนมากต้องพบความประหลาดใจว่า ปัญหาเดิมๆ ที่พวกเขาเคยเจอในงานเก่า กลับยังคงรอเขาอยู่ในงานใหม่ บริษัทใหม่ ที่เขาเคยเลือกแล้วว่าดีกว่างานเดิมบริษัทเดิม
ผู้แต่งชี้ว่า มีหลายวิธีที่คุณสามารถจะปรับปรุงงานที่กำลังทำอยู่ และเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้ โดยยังคงทำงานอยู่ในบริษัทเดิม และอธิบายต่อไปว่า ปัญหาต่างๆ ในการทำงานที่คุณมักต้องเผชิญอยู่เสมอนั้น แท้จริงแล้วหาใช่แสดงถึงปัญหาของบริษัท หากแต่แสดงถึงปัญหาที่เกิดจากวิธีคิดและการกระทำของตัวคุณเอง
การจะประสบความสำเร็จและเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานนั้น คุณจะต้องตระหนักว่าบริษัทของคุณให้ความสำคัญกับความเชื่อและพฤติกรรมเช่นใด ความเชื่อและพฤติกรรมพึงประสงค์เหล่านั้นนั่นเอง ที่จะเป็นสิ่งตัดสินว่า ใครในองค์กรที่จะประสบความสำเร็จและเติบโตในหน้าที่การงาน และคุณจะต้องรับเอาความเชื่อและพฤติกรรมนั้นมาปฏิบัติ เมื่อนั้นคุณก็จะสามารถค้นพบงานที่คุณรัก และพบกับความสำเร็จได้ในงานที่คุณกำลังทำอยู่ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนงาน
ความเชื่อผิดๆ เรื่องความก้าวหน้า
ผู้แต่งอธิบายว่า คุณสามารถพบคำตอบของปัญหาการไม่ก้าวหน้าในการทำงานได้ภายในตัวคุณเอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับความรักในงานของคน เพราะคนที่พบว่าตัวเองมีความสุขในการทำงานอยู่เสมอ คือคนที่เลือกที่จะทำในสิ่งที่เขารัก อย่างไรก็ตาม การจะนำเอาสิ่งที่คุณรักเข้ามาในการทำงานและชีวิตของคุณอาจเป็นเรื่องยาก แต่หากคุณทำได้ มันจะสร้างความเปลี่ยน แปลงให้แก่ชีวิตของคุณอย่างใหญ่
ผู้ประพันธ์พบว่า ความสามารถในการพยายามไต่เต้าไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นและเงินเดือนที่มากขึ้นของพนักงาน จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก หากพวกเขาได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก
Make It Work เริ่มต้นด้วยการเสนอเครื่องมือสำหรับประเมินตนเอง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถประเมินระดับความสำเร็จของตนในปัจจุบัน ตามด้วยการชี้ถึงความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับความก้าวหน้าในงาน 16 ข้อ เช่น ความเข้าใจผิดข้อที่ 1 คือ ความเข้าใจที่ว่า คุณจะต้องให้ความสำคัญกับการสร้างภาพแต่ ผู้แต่งชี้ว่านั่นคือการให้ความสำคัญกับรูปแบบมากกว่าสาระและ เป็นการแสดงว่าคุณวิตกว่าคนอื่นจะคิดกับคุณอย่างไร ซึ่งไม่มีประโยชน์อันใดเลย และรังแต่จะสร้างความวิตกกังวลที่ไร้สาระ
แทนที่จะเอาแต่สร้างภาพ ผู้แต่งชี้ว่า คุณควรจะเอาเวลาไปทุ่มเทกับการสร้างความชัดเจนว่า ตัวคุณเป็นใคร และมีความรักชอบในสิ่งใด และพยายามจะค้นหาโอกาสเพื่อที่จะได้ทำงานที่คุณรัก
การปลดเปลื้องตัวเองจากความเชื่อที่ผิดๆ เหล่านี้ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องว่า สิ่งใดที่สำคัญต่อความก้าวหน้าของคุณอย่างแท้จริง จะทำให้คุณกลับมาควบคุมการทำงานของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นก้าวแรกที่สำคัญมากในการทำงานอย่างมีเป้าหมายและมีความรักในงาน ซึ่งจะนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าในงานอย่างแท้จริง
ความสำเร็จอยู่แค่เอื้อม
เมื่อคุณทำงานอย่างมีเป้าหมายและด้วยความรัก ความสำเร็จจะไปไหนเสีย ผู้แต่งยังได้แนะนำวิธีการ 4 ขั้น สำหรับการเริ่มต้นวางรากฐานความสำเร็จในการทำงานจากภายในตัวคุณคือ ค้นให้พบว่าคุณรักชอบสิ่งใด ระบุให้ได้ว่าในบรรดาสิ่งที่คุณรักชอบนั้น สิ่งใดที่คุณชอบมากที่สุดและทำได้ดีที่สุด หางานที่เหมาะสมกับสิ่งที่คุณรักมากที่สุด และเลือกทำงานนั้น
ผู้แต่งยกตัวอย่าง Michael Dell ซึ่งใช้ความรักหลงใหลในคอมพิวเตอร์ ช่วยในการสร้างบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่เป็นผู้ปฏิวัติวิธีการขายและกระจายสินค้า
จากนั้นผู้แต่งได้แนะนำวิธีปฏิบัติ 6 ข้อที่จะทำให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้นต่อองค์กรดังนี้ กำหนดบทบาทที่คุณจะทำได้ดีที่สุด ทำให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจอยู่ข้างเดียวกับคุณ พัฒนาความสามารถในด้านต่างๆ ปฏิบัติตามกฎแห่งความสำเร็จของบริษัท แสวงหาโอกาสผ่านเครือข่ายความสัมพันธ์ของคุณ และทำงานที่คุณรักที่สุดเสมอ
|
 |
|
|
