| |
new releases
Manager 360 aStore
|
|
| |
|
 |
Shift
ผู้เขียน: Carlos Ghosn , Philippe Ries
ผู้จัดพิมพ์: Currency Doubleday
จำนวนหน้า: 232
ราคา: $25.95
buy this book
|
|
|
 |
การฟื้นตัวอย่างน่าทึ่งของ Nissan
ในปี 1999 Nissan บริษัทผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นใกล้จะล้มละลายเข้าไปทุกวัน จนกระทั่ง Carlos Ghosn ได้เข้าไปเป็นผู้บริหารสายปฏิบัติการ (COO) ภายในเวลาเพียงปีครึ่ง Nissan กลับมีกำไรอีกครั้ง และอีกเพียงไม่กี่ปีถัดจากนั้น Nissan กลับกลายเป็นบริษัทรถยนต์ขนาดใหญ่ที่มีผลกำไรมากที่สุดในโลก
และใน Shift เล่มนี้ Ghosn จะเล่าถึงการวางแผนฟื้นฟู Nissan ของเขา ซึ่งนับเป็นการผ่าตัดใหญ่บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นแห่งนี้
ก่อนที่จะเข้าร่วมกับ Nissan นั้น Ghosn เริ่มต้นการทำงานที่บริษัท Michelin ในตำแหน่งวิศวกร ผู้ไต่เต้าขึ้นตามลำดับจนขึ้นถึงตำแหน่ง COO ของ Michelin ในบราซิล จากนั้นเขาได้ย้ายไปเป็น COO ให้กับ Renault ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Nissan
หนึ่งปีหลังจากทำงานที่ Nissan เขาได้เลื่อนเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ (president) และอีกหนึ่งปีต่อจากนั้น ก็ได้ควบตำแหน่งดังกล่าวกับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ส่วนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Ghosn ได้ขึ้นเป็น CEO ของ Renault ในขณะที่ยังคงรั้งตำแหน่ง CEO ของ Nissan ด้วย
แผนฟื้น Nissan
แผนฟื้นบริษัทรถญี่ปุ่นของ Ghosn ค้านกับวิธีคิดและธรรมเนียมปฏิบัติแต่ดั้งเดิมของธุรกิจญี่ปุ่น ซึ่ง Ghosn เห็นว่าเป็นอุปสรรคขัดขวางประสิทธิภาพของบริษัท ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของแผนฟื้น Nissan คือการปลดพนักงานถึง 21,000 ตำแหน่งทั่วโลก โดยส่วนใหญ่เป็นพนักงานในญี่ปุ่น และการปิดโรงงานถึง 5 แห่ง
Ghosn ได้ให้สัญญา 4 ข้อเมื่อเปิดเผยแผนดังกล่าวว่า
1. Nissan จะกลับคืนสู่การมีเสถียรภาพทางการเงินภายใน 1 ปีหลังจากเริ่มใช้แผนฟื้นฟู
2. หนี้ของ Nissan จะลดลงร้อยละ 50 ภายใน 3 ปี
3. ส่วนต่างกำไรของ Nissan จะเพิ่มเป็นร้อยละ 4.5 ของยอดขายภายใน 3 ปี
4. หากทำไม่ได้ทั้งหมดนี้ เขาและทีมบริหารจะลาออกทั้งหมด
ผลคือ Ghosn และทีมบริหารของเขายังคงอยู่ในตำแหน่งและทำตามสัญญาได้หมดทุกข้อ การฟื้นตัวสำเร็จของ Nissan กลายเป็นเรื่องที่โจษจันกันมากที่สุดในโลกของอุตสาหกรรมรถยนต์ในศตวรรษใหม่ และปี 2003 Nissan กลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่ทำกำไรมากที่สุดในโลก ด้วยส่วนต่างกำไรร้อยละ 11.1 และเริ่มจ้างงานใหม่อีกครั้ง
Philipp Ries ผู้แต่งร่วมชี้ว่า ความสำเร็จในการฟื้น Nissan ต้องยกความดีความชอบให้แก่ Renault ซึ่งทุ่มเงิน 5 พันล้านดอลลาร์ซื้อหุ้นร้อยละ 36.8 ของ Nissan โดยกำหนดเงื่อนไขว่า จะส่ง ผู้บริหาร 3 คนไปเข้าร่วมในคณะกรรมการบริษัทของ Nissan โดยมี Ghosn เป็น COO ซึ่ง Ries ชี้ว่า นี่คือตัวอย่างของข้อดีของโลกาภิวัตน์ ที่พิจารณาเลือกคนโดยเคารพในความสามารถ
รู้จักผู้ฟื้น Nissan
ตัว Ghosn เองก็อาจเรียกได้ว่าเป็นผลผลิตของโลกาภิวัตน์ ชีวิตของเขาเหมือนถูกเตรียมมาเพื่อให้เป็นผู้นำของบริษัทในยุคโลกาภิวัตน์ เขาเป็นคนเลบานอนที่ไปเกิดที่บราซิลแต่ไปเรียนที่ฝรั่งเศส เขาถูกเจาะจงตัวให้เข้าทำงานที่ Michelin ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เนื่องจากบริษัทดังกล่าวกำลังมองหาวิศวกรชาวบราซิลที่ได้รับการศึกษาจากฝรั่งเศสเพื่อส่งไปทำงานที่เมือง Rio de Janeiro ของบราซิล
ขณะอยู่ที่ Michelin นี้ Ghosn ได้ฝากผลงานด้วยการคิดค้นหลักการที่เรียกว่า "cross-manufacturing" คือการใช้สายการผลิตเดียวกันในการผลิตสินค้ามากกว่าหนึ่งแบรนด์
ปี 1996 Ghosn ตัดสินใจเข้ามารับตำแหน่งเบอร์สองของ Renault หลังจากพิจารณาแล้วว่า เขาไม่มีโอกาสจะไต่เต้าสูงไปกว่านั้นได้อีกแล้วใน Michelin ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว ที่ Renault เขาได้รับฉายาจอมตัดรายจ่าย จากผลงานการตัดรายจ่ายของบริษัทลงมากกว่า 20,000 ล้านฟรังก์ ก่อนที่จะมาสร้างผลงานมหัศจรรย์ที่ Nissan ในที่สุด
|
 |
|
|
