| |
new releases
Manager 360 aStore
|
|
| |
|
 |
Disciplined Dreaming
ผู้เขียน: Josh Linkner
ผู้จัดพิมพ์: Jossey-Bass
จำนวนหน้า: 235
ราคา: $26.95
buy this book
|
|
|
 |
มีคนจำนวนมากเห็นว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นความเพ้อฝัน หรือความฝันที่ไม่อาจทำให้เป็นจริง แต่ Josh Linkner ซึ่งเป็นทั้งนักสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจและนักดนตรีแจ๊ซบอกว่า มี “ระบบ” ที่จะช่วยให้คุณหรือใครๆ สามารถสร้างความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่นำไปใช้จริงได้ รวมทั้งสร้างผลกำไรให้คุณด้วย เขาเรียกว่า ระเบียบในการทำฝันให้เป็นจริง (Disciplined Dreaming) ซึ่งจะช่วยให้ผู้นำธุรกิจและองค์กรค้นพบเส้นทางใหม่ในการสร้างผลกำไรจากความคิดสร้างสรรค์อย่างได้ผลมากขึ้น
ขณะที่ธุรกิจมีระบบและระเบียบการทำงานต่างๆ มากมาย ตั้งแต่วิธีปฏิบัติในการรับโทรศัพท์ลูกค้าไปจนกระทั่งเรื่องเล็กๆ อย่างการเอาขยะไปทิ้ง แต่เมื่อมาถึงเรื่อง ที่มีความสำคัญมากที่สุดสำหรับบริษัท นั่นคือการสร้าง สรรค์และนวัตกรรม บริษัทจำนวนมากกลับไร้ระบบการทำงานใดๆ ที่จะช่วยพัฒนาขีดความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ของคนและองค์กร Disciplined Dreaming เป็นระบบที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ให้แก่คุณและองค์กร ช่วยให้คุณรับมือกับความท้าทายทางความคิดต่างๆ และสร้างวัฒนธรรมของการคิดสร้างสรรค์ ขึ้นในองค์กร เพื่อการเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม หลายบริษัทมีสิ่งที่เรียกว่า “กระบวนการส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม” แต่กลับปรากฏว่า กระบวนการที่ว่านั้นกลับยิ่งไปปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ไม่ให้เกิด ขึ้นในองค์กร เป็นเพราะการยึดติดกับกฎเกณฑ์มากเกินไป เป็นทางการเกินไปและจำกัดมากเกินไป แต่ Disciplined Dreaming ทำสิ่งที่ตรงกันข้าม นี่เป็นระบบเปิดที่เน้นความสำคัญของกรอบความคิดและปรัชญาของการคิดสร้างสรรค์ บวกด้วยเทคนิคเคล็ดลับที่จะช่วยส่งเสริมและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และไม่ใช่ระบบที่เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์
ความพ่ายแพ้ของ Microsoft
โปรแกรม Windows และ Office ของ Microsoft ยังคงครองตลาดและสร้างกำไรให้แก่ Microsoft มากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ในอดีต Microsoft เป็นสัญลักษณ์ของการคิดสร้างสรรค์และผู้นำทางความคิด แต่แล้ว Microsoft เริ่มเปลี่ยนไปยึดติดกับความสำเร็จในอดีต ซึ่งทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่นี้ต้องพลาดความก้าวหน้าที่สำคัญๆ ไปมากมาย เมื่อคู่แข่งสร้างสรรค์ นวัตกรรมออกมาไม่หยุด Microsoft พ่ายแพ้ต่อ Kindle, Sony และ Apple ในตลาดหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ e-book พ่ายแพ้ต่อ Google ในตลาดเสิร์ชเอ็นจิ้น พ่ายแพ้ต่อ Wikipedia ในตลาดสารานุกรมออนไลน์ และพ่ายแพ้ต่อ Apple ในตลาดเพลงดิจิตอล Microsoft ยังพลาดหมดทั้งตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่และ tablet PC
การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่เกิดขึ้นในโลกธุรกิจยุคใหม่ ทำให้วงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์สั้นลงอย่างมาก ยิ่งทำให้ความคิดสร้างสรรค์เป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้น โมเดลใหม่ในการพิชิตธุรกิจในอนาคต จึงต้องรักษาตำแหน่งแถวหน้าของการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้ได้
ไม่ว่าคุณจะอาลัยอาวรณ์ความสำเร็จในอดีตหรือโหยหาความงดงามในอดีตมากเพียงใด แต่กฎกติกาของการเล่นเกมได้เปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว วิกฤติการเงินโลกและวิกฤติเศรษฐกิจถดถอยเมื่อปี 2009 บวกกับกระแสโลกาภิวัตน์ ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วด้านเทคโนโลยีและการสื่อสาร แนวโน้มด้านประชากรและตลาดแรงงานในอนาคต ทำให้ปัจจุบันแตกต่างไปจากอดีตอย่างสิ้นเชิง และบ่งบอกถึงการสิ้นสุดของยุคหนึ่ง การเริ่มต้นของยุคใหม่ นั่นคือยุคแห่งการสร้างสรรค์ (Age of Creativity)
หากคุณและองค์กรต้องการชนะในยุคแห่งการสร้างสรรค์นี้ ก็จำเป็นต้องสร้างทักษะในการคิดสร้างสรรค์ และทำตัวเป็นศิลปินมากกว่านักเทคนิค ตลาดในยุคแห่งการสร้างสรรค์นี้ คุณต้องสามารถเพิ่มคุณค่าเมื่อต้องเผชิญ หน้ากับความไม่แน่นอน และไม่อาจพึ่งพาคัมภีร์คู่มือใดๆ ในการคิดว่าควรจะทำสิ่งใดต่อไป แต่คุณต้องพึ่งการคิดสิ่งใหม่ๆ และต้องยอมปล่อยมือจากสิ่งเดิมๆ ที่เป็นอยู่ ยอมที่จะเปลี่ยนแปลงหรือเสี่ยงต่อการถูกน็อกออกจากตลาด
ช่องว่างของความสามารถในการคิดสร้างสรรค์
แต่ในเวลาที่เรากำลังต้องการความคิดสร้างสรรค์ในโลกธุรกิจมากขึ้นอยู่นี้ แหล่งที่มาของความคิดสร้างสรรค์ กลับลดลง แนวโน้มที่สวนทางกันนี้ ก่อให้เกิดช่องว่างขนาด ใหญ่ของความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ที่ความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ของคนอเมริกันกำลังลดลง Kyung Hee Kim นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย College of William and Mary ค้นพบว่า เดิมความคิดสร้างสรรค์ในคนอเมริกันเพิ่มขึ้นตลอดเวลา แต่แล้วในปี 1990 ความคิดสร้างสรรค์ของคนอเมริกันกลับลดลงมาเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้ ซึ่งเป็นการลดลงอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง ช่องว่างของความคิด สร้างสรรค์นี้ จะเป็นตัวกำหนดศักยภาพทางเศรษฐกิจทั้งโดยส่วนบุคคลและขององค์กรในอนาคต การอุดช่องว่างนี้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำโดยเร่งด่วน
ขยายความคิดสร้างสรรค์ของคุณ
การกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบ ไม่ควรถูกจำกัดอยู่เพียงในการประชุมพัฒนาผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่คุณสามารถกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในทุกๆ ที่ ตั้งแต่การประชุมพนักงานทุกเช้าวันจันทร์ การเตรียมออกบูธในงานแสดงสินค้า ไปจนถึงการคิดสูตรค็อกเทล ใหม่ๆ ให้โรงแรมที่เป็นลูกค้าของคุณ
ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับเพื่อการเปิดใจของคุณให้ยอม รับแนวทางใหม่ๆ
อดทนต่อความคลุมเครือ ในระหว่างกระบวนการคิดสร้างสรรค์ อาจมีบางเวลาที่คุณรู้สึกเหมือนไม่สามารถคิดอะไรใหม่ๆ และรู้สึกว่ากำลังหลงทาง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า นี่แหละเป็นช่วงเวลาที่คุณใกล้จะเกิดความคิดใหม่ๆ
หลีกเลี่ยงคำตอบที่มีแค่ถูก หรือ ผิด ในการคิดสร้างสรรค์ คุณต้องให้ความสำคัญกับคำถาม ไม่ใช่คำตอบ โดยเฉพาะคำถามแบบปลายเปิด
ยอมรับการตกหลุมตกร่อง จะมีเวลาที่คุณรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่ลงตัวเลย แต่ทันใดนั้น ความคิดใหม่ๆ กลับพรั่งพรูออกมาโดยไม่รู้ว่ามาจากไหน เพราะการคิดสร้าง สรรค์มีลักษณะเป็นกระบวนการคิด ดังนั้น คุณจึงต้องให้เวลากับมัน สิ่งที่คุณต้องทำคือเพียรรักษาความกระตือรือร้น และอยากรู้อยากเห็นเอาไว้ตลอดเวลา มากกว่าการพยายาม จะเค้นความคิดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์
ฟัง Lori Weiss ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์และ creative director ที่มีชื่อเสียงเชื่อว่าการฟังคือกุญแจของ การคิดสร้างสรรค์ เธอบอกให้ลูกน้องต้องเปิดใจรับฟังสิ่งที่คนอื่นๆ พูด รวมไปถึงสิ่งที่พวกเขาไม่ได้พูดออกมาด้วย
อย่าดื้อรั้นหรือเข้มงวดเกินไป อย่าปล่อยให้ประสบ การณ์ในอดีตของคุณทำให้คุณยึดติดแน่นกับอดีต
หลายหัวดีกว่าหัวเดียว การได้ฟังความคิดที่หลากหลายเป็นโอกาสให้คุณได้พิจารณาทางเลือกหลายๆ ทาง จงเปิดรับข้อมูลที่หลากหลายจากแหล่งที่แตกต่างกัน รวมถึงจากคนที่มีมุมมองต่างๆ กัน
|
 |
|
|
