|
new releases
Manager 360 aStore
|
|
|
|
|
Bury My Heart at Conference Room B
ผู้เขียน: Stan Slap
ผู้จัดพิมพ์: Portfolio
จำนวนหน้า: 272
ราคา: $25.95
buy this book
|
|
|
|
คุณเคยมีความรู้สึกว่า แม้จะประสบความสำเร็จจนได้ทำงานในตำแหน่งผู้จัดการ ไม่ว่างานของคุณจะดีเพียงใด แต่คุณก็ยังคงรู้สึกว่า ยังมีความสำเร็จที่มากกว่า ที่ให้รู้สึกเติมเต็มยิ่งกว่า รอคุณอยู่ ถ้าคุณเคยรู้สึกเช่นนั้น Stan Slap ผู้เชี่ยวชาญด้านประสิทธิภาพ ผู้แต่งหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณได้ค้นพบความหมายใหม่ในชีวิตการทำงานของคุณ
คุณจะไม่มีวันทุ่มเทให้แก่บริษัทอย่างแท้จริง จนกว่าบริษัท จะทำเช่นนั้นกับคุณก่อน Bury My Heart at Conference Room B เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการดึงพลังอันมหาศาลของ “ความผูกพันทางใจ” (emotional commitment) ที่พนักงานโดยเฉพาะ ในระดับผู้จัดการมีต่อบริษัท ซึ่งมีค่ามากยิ่งกว่าความผูกพันทาง การเงิน ทางสติปัญญาและทางกายภาพ
บริษัทจะได้รับความผูกพันในทางจิตใจจากคุณ ก็ต่อเมื่อคุณเต็มใจที่จะมอบมันออกมาเท่านั้น ความผูกพันทางใจต่อบริษัท จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณสามารถนำคุณค่าส่วนตัวที่เป็นของตัวคุณ มาใช้ในชีวิตการทำงานได้อย่างเต็มที่และใช้คุณค่านั้นสร้างกระบวน การทำงานที่สามารถรองรับการนำคุณค่าส่วนตัวของคุณออกมาใช้ เพื่อสร้างความสำเร็จที่มากกว่าเดิม
หัวใจพนักงาน
ความผูกพันทางใจเป็นความรู้สึกที่ฝังอยู่ในระดับจิตใต้สำนึก จะเกิดขึ้นเมื่อสมองของคุณเชื่อว่าปลอดภัยที่จะแสดงออกมา และจะได้รับรางวัลตอบแทนด้วย แม้กระทั่งรางวัลที่เป็นตัวเงินหรือสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เอื้อให้คุณได้แสดงสติปัญญาความสามารถก็ยังไม่อาจเทียบเท่ากับความรู้สึกเต็มอิ่มที่คุณได้รับ หากสามารถทำงานโดยใช้คุณค่าส่วนตัวของคุณอย่างเต็มที่
นี่ไม่ใช่ทฤษฎีใหม่ในด้านบริหารจัดการ นี่คือคุณภาพชีวิต
ผลกำไร การเติบโต คุณภาพ การบริการลูกค้าได้อย่างเกินความคาดหมาย ทั้งหมดนี้ไม่ใช่คุณค่า หากเป็นกลยุทธ์ของบริษัทที่พยายามยัดเยียดให้คุณคิดว่าคือคุณค่า ทั้งหมดข้างต้นคือ กลยุทธ์ที่ดีและสำคัญ แต่เป็นแค่กลยุทธ์ไม่ใช่คุณค่า คุณค่าหมาย ถึง ความเชื่อส่วนตัวที่คุณยึดมั่นอยู่ในส่วนลึกที่สุดภายในตัวคุณ
ครอบครัว ความซื่อสัตย์ สุขภาพ เสรีภาพ นี่ต่างหากคือตัวอย่างของคุณค่า หากนี่คือคุณค่าที่คุณให้ความสำคัญในชีวิต แต่คุณกลับรู้สึกว่าต้องยอมลดทอนคุณค่าเหล่านี้ เพื่อจะทำงานต่อไป นั่นหมายความว่าคุณอาจไม่ได้มีชีวิตทำงานที่มีความสุขนัก ซึ่งไม่เกี่ยวกับสติปัญญา ทักษะความสามารถ หรือวุฒิภาวะแต่อย่างใด
บริษัทจะทำกำไรได้อย่างดีที่สุดหรือไม่นั้น เป็นผลมาจากบริษัทสามารถทำให้พนักงานโดยเฉพาะระดับผู้จัดการ รู้สึกเต็มในตัวเองได้ก่อนหรือไม่ จากนั้นพวกเขาจึงจะสามารถมอบความผูกพันทางใจให้แก่บริษัทได้ บริษัทอาจได้รับความผูกพันทางความรู้สึกจากพนักงาน ในวันแรกๆ ที่เริ่มต้นบุกเบิกธุรกิจ หรือในวันที่ประสบความสำเร็จหรือความล้มเหลวอย่างใหญ่หลวง แท้จริงแล้ว หัวใจของการเพิ่มประสิทธิภาพของบริษัท เชื่อมต่อโดยตรงกับหัวใจของพนักงาน
Limbic System
ระบบ limbic system คือส่วนของสมองที่ประเมิน ความเป็นไปได้ของรางวัลที่จะได้รับจากการตัดสินใจครั้งสำคัญๆ ระบบ limbic system คือส่วนของการคิดอย่างจริงจัง จะไม่ถูกหลอกล่อ ด้วยสิ่งที่มีเพียงแสงวูบวาบ หรือด้วยสิ่งทดแทนที่ไร้คุณค่าความหมายที่แท้จริง แม้ว่าสิ่งนั้นอาจเป็นวัตถุที่มีราคาแพงก็ตาม
หากบริษัทต้องการกระตุ้นให้ระบบ limbic system ในสมองของพนักงาน มีการตอบสนองในทิศทางที่บริษัทต้องการ มีวิธีเดียวคือ จะต้องเชื่อมชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงานของพวก เขาด้วยความปลอดภัยและความสุข ยอมให้พนักงานทุกคนสามารถทำงานตามคุณค่าส่วนตัวของพวกเขาได้อย่างเต็มที่
โมเดลผู้นำ
ตัวพนักงานรู้ดีที่สุดว่าเขาต้องการอะไรมากที่สุด นั่นคือการที่ประสบความสำเร็จด้วยการใช้คุณค่าส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่ต้องยอมลดทอนคุณค่านั้นลงไป หากพนักงานใช้คุณค่าส่วนตัวในการทำงานได้เต็มที่ นี่จะเป็นโมเดลการทำงานที่ปลอดภัยและมีความสุข ทั้งต่อบริษัทและต่อพนักงาน และคุณรู้หรือไม่ว่า โมเดลการทำงานแบบนี้เรียกว่าอะไร นี่คือโมเดลของการเป็นผู้นำ
เป้าหมายของผู้นำคือ ต้องการเปลี่ยนแปลงโลกรอบๆ ตัว ด้วยการประกาศคุณค่าส่วนตัวของคุณให้โลกรู้ สามารถใช้คุณค่า ส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ เนื้อหาสาระที่แท้จริงของการเป็นผู้นำคือ ผู้นำคือคนที่สามารถใช้คุณค่าส่วนตัวของตนอย่างเต็มที่ในการทำงาน โดยไม่มีการลดทอนคุณค่านั้นลงไป แต่พวกเขากลับใช้คุณค่านั้นทำให้ชีวิตดีขึ้น ทั้งตัวเขาและคนอื่นๆ นี่คือเหตุผลที่ทำให้คนคนหนึ่งสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำ และคือเหตุผลที่ทำไมคนจึงยอมเดินตามผู้นำ
บริษัทจึงต้องทำตัวให้เป็นสถานที่ที่ดีที่สุด ที่เปิดโอกาส ให้ผู้จัดการได้ใช้คุณค่าส่วนตัวของเขาอย่างเต็มที่ในการทำงาน นี่จะกลายเป็นระบบการทำงานที่จะได้รับการปกป้องจากผู้จัด การทุกคนตลอดไป เป็นระบบการทำงานที่ทุกคนใฝ่ฝันหา
สิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริง
- บริษัทต้องยอมให้พนักงานมีชีวิตการทำงาน ที่ได้ใช้ คุณค่าส่วนตัวของพวกเขาในการทำงาน
- การได้มีชีวิตอยู่โดยทำตามคุณค่าของตัวเอง คือกุญแจสำคัญของความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน
- คุณต้องมีความเป็นผู้นำ บริษัทไม่ใช่สภาพแวดล้อมที่อยู่นิ่งๆ แต่บริษัทก็มีเป้าหมายของตัวเอง มีการจัดลำดับความสำคัญของเรื่องต่างๆ และมีพลังชีวิตของตัวเอง ดังนั้น การที่คุณจะทำงานด้วยคุณค่าส่วนตัวของคุณในสภาพแวดล้อม เช่นนี้ คุณก็ต้องมีความเป็นผู้นำด้วยเช่นกัน
- คุณควรมีชีวิตการทำงานที่ได้ใช้คุณค่าส่วนตัวอย่างเต็มที่ คุณค่าที่คุณยึดถือก็คือตัวตนของคุณ เป็นกระจกเงาที่เที่ยงตรงที่สุดที่ฉายสะท้อนตัวตนแท้ๆ และดีที่สุดของคุณ
|
|
|
|