| |
new releases
Manager 360 aStore
|
|
| |
|
 |
Clutch
ผู้เขียน: Paul Sullivan
ผู้จัดพิมพ์: Portfolio
จำนวนหน้า: 246
ราคา: $25.95
buy this book
|
|
|
 |
คงจะมีสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่คุณอาจต้องเผชิญสถานการณ์ยากลำบาก ที่แม้กระทั่งคนเก่งที่สุดก็อาจต้องพบกับความล้มเหลว เมื่อต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล อย่างเช่น CEO ที่เกิดความตื่นตระหนก เมื่อต้องพยายามฉุดรั้งบริษัทให้พ้นจากวิกฤติอย่างสิ้นหวัง นักการเมืองที่หลงลำพองเกินไป จนต้องพ่ายแพ้ให้แก่นักการเมืองหน้าใหม่
ขณะเดียวกัน บางคนกลับยังสามารถทำได้ดีภายใต้ สถานการณ์อันวิกฤติ นายแพทย์ในห้องฉุกเฉินที่ต้องทำงาน แข่งกับเวลาเพื่อช่วยชีวิตคนเจ็บ นายทหารที่สามารถพลิกสถานการณ์ และนำหน่วยรบของเขารบชนะในที่สุด หลังจาก ถูกลอบโจมตี ทนายความหน้าใหม่ที่ไม่เกรงกลัวบรรยากาศข่มขู่คุกคามในศาลและสามารถคว่ำทนายมือเก๋า จนพลิกเอา ชนะในคดีสำคัญได้ คนเหล่านี้เรียกว่าเป็นคนประเภท clutch people ผู้มีความสามารถเอาชนะแรงกดดันมหาศาลได้เสมอ จนทำให้ใครๆ ต้องรู้สึกทึ่งว่า พวกเขาทำได้อย่างไร
Paul Sullivan ผู้สื่อข่าวการเงินและผู้เขียน Clutch ชี้ว่า ความสามารถในการเอาชนะสถานการณ์วิกฤติ ไม่ใช่ความสามารถที่ติดตัวมาแต่กำเนิด หากแต่เป็นทักษะที่สามารถเรียนรู้ฝึกฝนกันได้ นี่คือศิลปะในการทำงานได้ดีเหมือนปกติ ทั้งๆ ที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเครียด สูง ราวกับว่ามันเป็นสถานการณ์ปกติในชีวิตประจำวัน ที่แม้กระทั่งคนเก่งที่สุด มีประสบการณ์คร่ำหวอดมากที่สุดบางคน ก็ยังไม่มีความสามารถนี้ แต่ Sullivan ยืนยันว่า ทุกคนสามารถ เรียนรู้ที่จะพัฒนาทักษะนี้ได้
อะไรคือ clutch
clutch คือความสามารถในการทำสิ่งที่คุณเคยทำได้ในยามปกติ เมื่อต้องเจอกับแรงกดดันมหาศาล clutch ไม่ใช่เรื่องของโชค ไม่ใช่ความสามารถลี้ลับ แต่คนที่ยังคงสามารถ ประสบความสำเร็จได้ แม้ต้องเผชิญความกดดันสูง ต้องอาศัยการทำงานอย่างหนัก คนที่ยังคงสามารถทำผลงานได้ดี ภายใต้สถานการณ์ที่กดดัน ในขณะที่คนอื่นๆ กลับไม่สามารถ ถ้าพวกเขาเป็นผู้บริหารหรือนักการเมือง ก็จะต้องถือเป็นระดับปรมาจารย์ ถ้าเป็นนักกีฬาก็จะต้องเป็นระดับตำนานถ้าเป็นนายทหารผู้สามารถนำทัพสู้รบกับศัตรูจนได้ชัยชนะกลับมา ก็จะต้องได้รับการต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษแห่งชาติ Tiger Woods
นักกอล์ฟระดับพระกาฬ Tiger Woods มักถูกใครต่อใครถามด้วยความทึ่งว่า ทำไมเขาจึงดูเหมือนจะสามารถ ชนะในทุกทัวร์นาเมนต์ ทั้งๆ ที่ต้องเจอกับแรงกดดันมหาศาล คำตอบของ Tiger Woods ง่ายจนน่าทึ่ง “ผมเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้นเสมอ มากกว่าใครๆ ทั้งนั้น และผมก็เคยล้มเหลวมากกว่าใครๆ ทั้งหมด แต่ในระหว่างทางนั้น คุณก็จะพบความสำเร็จ”
ปรับตามสถานการณ์
แผนการของหน่วย Secret Service ของสหรัฐฯ คือ จะต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อความจริงไม่เป็นเช่นนั้น การปรับตามสถานการณ์คือกุญแจสำคัญ
เมื่อ John Hinckley โผล่ขึ้นจากกลุ่มนักข่าวและยิงอดีตประธานาธิบดี Ronald Reagan ในเดือนมีนาคม 1981 แน่นอนว่า การที่ประธานาธิบดีถูกยิงคือความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของหน่วย Secret Service แต่การสามารถปรับตัวตามสถานการณ์ คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหน่วยงานดังกล่าว ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง Timothy McCarthy เอาตัวเข้าขวางกระสุนที่ยิงซ้ำใส่ Reagan เจ้าหน้าที่ Jerry Parr และ Ray Shaddick ผลักประธานาธิบดีเข้าไปในรถลิมูซีนกันกระสุน Drew Unrue คนขับรถได้รับคำสั่งให้ขับไปยังทำเนียบขาว แต่เมื่ออาการของ Regan จำเป็นต้องได้รับการ รักษาโดยด่วน คำสั่งเปลี่ยนเป็นให้ขับไปโรงพยาบาล George Wachington แทน เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่มัวแต่คร่ำครวญว่าระบบรักษาความปลอดภัยล้มเหลวขนาดไหน ที่ทำให้ Hinckley มีโอกาสยิงประธานาธิบดีได้ถึง 5 นัด นั่นเป็นเรื่อง ที่ต้องจัดการทีหลัง แต่เรื่องสำคัญที่สุดคือ รักษาชีวิตประธานา ธิบดี แม้ว่าแผนการคุ้มครองประธานาธิบดีจะล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง แต่การปรับตามสถานการณ์ ทำให้พวกเขาสามารถช่วยชีวิตประธานาธิบดี ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดเอาไว้ได้
การปรับตัวตามสถานการณ์ต้องอาศัยการฝึกฝน เพื่อให้สามารถปรับตัวรับได้ทุกสถานการณ์ โดยกุญแจสำคัญ คือ ต้องเน้นที่เป้าหมายหรือผลลัพธ์สุดท้าย ไม่ใช่วิธีการ นี่คือ ความแตกต่างระหว่างคนที่สามารถปรับตัว เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่บีบคั้นอย่างหนักกับคนที่ไม่มีความสามารถเช่นนั้น คนที่สามารถปรับตัวเมื่อถูกกดดันจะคาดการณ์ล่วงหน้าแล้วว่า จะต้องทำอย่างไรเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน พวกเขาสามารถปรับตัวได้ เพราะเน้นที่เป้าหมาย ที่จะต้องทำให้สำเร็จ โดยไม่ยึดติดอยู่กับวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับเป้าหมายในการปรับตัวของหน่วย Secret Service คือการรักษาชีวิตประธานาธิบดี ไม่ใช่ความ ล้มเหลวของแผนการรักษาความปลอดภัย เอาชนะมรสุมทางการเงิน
Brad Kontz นักจิตวิทยาการเงินกล่าวว่า เงินเป็นพลังทางโลกที่ทรงอำนาจมากที่สุดในโลก เงินเกี่ยวข้องกับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ความปลอดภัย สุขภาพ สัมพันธภาพ การเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เงินเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมโยงกับทุกอย่าง
เมื่อเราต้องเห็นเงินของตัวเองหายวับไปต่อหน้าต่อตา คราวที่เกิดเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ Great Depression ความสูญเสียทำให้ทุกคนรู้สึกโกรธ และแย่ยิ่งกว่านั้นคือรู้สึกโทษทุกคน ยกเว้นตัวเอง แต่บทเรียนที่เกิดขึ้น ทำให้มองเห็นวิธีที่ชัดเจน ในการที่เราจะเอาชนะสถานการณ์วิกฤติทางการเงินได้ เพื่อที่จะตัดสินใจทางการเงินให้ดีขึ้นในอนาคต ต่อไปนี้ คือวิธีการ 5 ขั้น ที่คุณควรทำเมื่อเผชิญแรงกดดันทางการเงิน
- ยอมรับ ขั้นแรกที่จะทำให้คุณสามารถก้าวพ้นวิกฤติ การเงินคือ ยอมรับว่าคุณกำลังเผชิญอยู่กับมัน แน่นอน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ยิ่งปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไป ในการไม่ยอมรับ ว่า สถานการณ์การเงินของคุณ ไม่ได้ดีอย่างที่คุณเคยคิด ก็จะยิ่งทำให้การตัดสินใจทางการเงินในอนาคตของคุณ ต้องมีแรงกดดันเพิ่มขึ้น
- ปรับใจ ยิ่งปรับใจได้เร็วเท่าใด ก็ยิ่งดีเท่านั้น คุณจำเป็นต้องยอมรับว่า ในเวลาที่เกิดวิกฤติ เงินก็จะต้องหายไป แน่นอน นั่นไม่ใช่เรื่องดี แต่การหมกมุ่นเสียดายกับเงินที่เสียไป ก็ไม่ช่วยให้ได้เงินนั้นกลับคืนมา
- รู้ว่าสิ่งใดสำคัญและไม่สำคัญ ทันทีที่ทำใจได้ คุณจะต้องตัดสินใจว่า จะจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ อย่างไร สิ่งใดที่จำเป็นจริง สิ่งใดที่คุณต้องการเก็บไว้ และสิ่งที่ต้องทิ้งไปทันที การกำจัดสิ่งที่คุณไม่มีเงินพอที่จะซื้อได้ ในยามที่เกิดวิกฤติ หมายถึงฐานะการเงินของคุณจะดีขึ้นในอนาคต
- อย่าโทษคนอื่น ไม่มีใครบังคับให้คุณซื้อบ้านหรือข้าวของต่างๆ ที่คุณไม่มีเงินพอที่จะซื้อ อย่าโทษว่าเป็นเพราะเงื่อนไขเงินกู้ซื้อบ้านหรือสินค้าเงินผ่อนที่ซับซ้อนจนคุณไม่เข้าใจ ยังไงคุณก็หนีความรับผิดชอบสุดท้ายไม่พ้นอยู่ดี
- ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ คุณต้องมีชีวิตอยู่เพื่อวันต่อไป เป้าหมายของคุณไม่ใช่ขายของอย่างหนึ่งทิ้งไป เพื่อจะซื้ออีกอย่างหนึ่ง แต่คือการปรับปรุงงบดุลส่วนตัวของคุณ เมื่อใดที่คุณสามารถทำให้เงินสดหมุนเวียนกลับคืนมาได้ คุณจะอยู่ในฐานะที่จะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องเงิน ภายใต้แรงกดดันที่น้อยลง
สุดท้าย การสามารถเอาชนะวิกฤติทางการเงินส่วนตัวของคุณได้ ก็หมายถึงการมัธยัสถ์อดออม เพื่อเอาตัวให้รอดจากวิกฤติให้ได้เป็นอันดับแรก
|
 |
|
|
