|
new releases
Manager 360 aStore
|
|
|
|
|
Everyone Communicates, Few Connect
ผู้เขียน: John C. Maxwell
ผู้จัดพิมพ์: Thomas Nelson
จำนวนหน้า: 262
ราคา: $25.99
buy this book
|
|
|
|
John C. Maxwell ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้นำที่มีชื่อเสียงระดับโลกบอกว่า มีเพียงสิ่งเดียวที่ขวางกั้นระหว่างตัวคุณกับความสำเร็จ และไม่ใช่ประสบการณ์หรือสติปัญญา Maxwell กล่าวใน Everyone Communicates, Few connect ว่า หากคุณต้องการความสำเร็จ คุณต้องเรียนรู้วิธี “ติดต่อสัมพันธ์” กับคนอื่น แม้ว่าบางคนอาจดูเหมือนมีความสามารถในการติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่นมาตั้งแต่เกิด แต่ Maxwell ยืนยันว่า นี่เป็นทักษะที่เรียนรู้กันได้
ทำอย่างไร จึงจะสามารถติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่นได้อย่างประสบความสำเร็จ
Maxwell นิยามว่า การติดต่อสัมพันธ์ คือความสามารถในการอยู่ร่วมและสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ในทางที่จะช่วยเพิ่มอิทธิพลที่คุณมีต่อพวกเขา ความสามารถในการสื่อสารและติดต่อสัมพันธ์ เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะทำให้คุณบรรลุศักยภาพของตัวเอง การจะประสบความสำเร็จได้ คุณต้องสามารถทำงานร่วมกับคนอื่น และการจะทำงานร่วมกับคนอื่นได้อย่างดีที่สุด คุณต้องเรียนรู้ทักษะการติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่น ทั้งในระดับบุคคล กลุ่ม และสาธารณะ
หลักการของการติดต่อสัมพันธ์
การติดต่อสัมพันธ์ช่วยเพิ่มอิทธิพลของคุณในทุกสถานการณ์ คนเราไม่อาจประสบความสำเร็จในชีวิตได้โดยปราศจากความสามารถในการสื่อสาร แค่การทำงานหนัก สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ยังไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จ ทั้งความสามารถในการสื่อสารและการเป็นผู้นำ ต้องอาศัยทักษะในการติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่น หากคุณสามารถติดต่อกับคนได้ทุกระดับ ตั้งแต่ระดับบุคคล กลุ่ม จนถึงสาธารณะ สัมพันธภาพของคุณกับผู้อื่นจะแข็งแกร่ง ความสามารถในการทำงานเป็นทีม อิทธิพลของคุณ รวมทั้งประสิทธิภาพในการทำงานก็จะสูงขึ้นด้วย
Harvard Business Review ระบุว่า เกณฑ์สำคัญที่สุดในการวัดความก้าวหน้าและการเลื่อนตำแหน่ง คือความสามารถในการติดต่อสื่อสารอย่างได้ผล
การเรียนรู้ทักษะการติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่น เริ่มต้นที่ทัศนคติของตัวคุณเอง คุณเห็นคุณค่าของคนอื่นหรือไม่ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ทุกคนรู้ดีว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้บริษัทเติบโต ไม่ใช่ตลาด หรือเทคโนโลยี หรือการแข่งขัน หรือผลิตภัณฑ์ หากแต่เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าที่กล่าวมาทั้งหมด นั่นคือความสามารถในการมีพนักงาน ที่ดีและรักษาพวกเขาเอาไว้ได้
การติดต่อสัมพันธ์เกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับ “คนอื่น” ไม่ใช่ตัวคุณเอง คุณต้องเอาชนะตัวเอง ต้องเปลี่ยนทัศนคติจากการมองเห็นแต่ตัวเอง เป็นมองเห็นคนอื่น นี่คือการเริ่มต้นที่ยากที่สุด และเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุด สำหรับการเริ่มต้นติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่น คุณต้องหัดให้ความสำคัญกับคนอื่นก่อน ลดอัตตาให้น้อยลง ลองพยายามตอบคำถาม 3 ข้อนี้ ซึ่งเป็นคำถามที่คนมักถามตัวเอง และคนที่จะติดต่อด้วยมากที่สุด ไม่ว่าคุณจะเป็นลูกค้า ผู้ฟัง แขก สมาชิก เพื่อน เพื่อนร่วมงาน หรือลูกจ้าง คำถามเหล่านั้น คือ 1) “คุณใส่ใจ ฉันจริงหรือ” หากคนอื่นรู้สึกว่าคุณใส่ใจเขาจริงๆ นั่น คือการเปิดประตูไปสู่การติดต่อสัมพันธ์และสร้างสัมพันธภาพ 2) “คุณช่วยฉัน ได้มั้ย” คนขายมักสนใจแต่เสนอคุณสมบัติของสินค้าหรือบริการมาก เกินไป แทนที่จะสนใจตอบคำถาม “คุณช่วยฉันได้มั้ย” การยัดเยียดข้อมูลว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ หรืออุปกรณ์นั้นๆ ดีอย่างไร ไม่อาจดึงดูดความสนใจของคนได้ สิ่งที่สำคัญคือ ต้องสนใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ จะช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้หรือไม่ ต้องเน้นที่ประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับ ไม่ใช่เอาแต่อวดอ้างสรรพคุณของสินค้า คำถามสุดท้ายคือ 3) ฉันไว้ใจคุณได้มั้ย
การติดต่อสัมพันธ์ไม่ใช่แค่คำพูด คนทั่วไปมักให้ความสำคัญ กับสิ่งที่พูดเท่านั้น คิดว่านั่นคือทั้งหมดของการติดต่อสื่อสาร แต่ความจริงแล้ว การสื่อสารเป็นมากกว่าเพียงถ้อยคำ ผลการศึกษาของศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา Albert Mehrabian แห่ง UCLA พบว่า การติดต่อสื่อสารแบบเผชิญหน้ามีองค์ประกอบ 3 ประการคือ คำพูด น้ำเสียง และภาษาร่างกาย แต่สิ่งที่น่าสนใจในผลการศึกษานี้คือ หากสิ่งที่ผู้ส่งสารพูดกับทำขัดแย้งกัน ผู้รับจะตัดสินที่การกระทำและน้ำเสียงมากกว่าที่คำพูด โดยเฉพาะในสถานการณ์การสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกและทัศนคติ โดยผลการศึกษานี้พบว่า การสื่อสารที่ทำให้ผู้รับเชื่อนั้น คำพูดหรือคำ มีส่วนเพียงแค่ 7% เท่านั้น ในขณะท่าทางขณะพูดมีส่วน 38% และสิ่งที่คนมองเห็นมีส่วนถึง 55% สรุปก็คือ ความจริงแล้ว คำพูดแทบจะไม่สามารถทำให้คนเชื่อได้เลย
ดังนั้น ในการติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่น คุณจึงต้องคำนึงว่า คุณได้ใช้การสื่อสารที่มากกว่าเพียงถ้อยคำหรือไม่ ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่คุณทำให้คนอื่นเห็น เข้าใจ รู้สึก และได้ยิน
พัฒนาทักษะการติดต่อสัมพันธ์
การติดต่อสัมพันธ์ที่ได้ผลต้องแสวงหาจุดร่วม ซึ่งจะทำได้ ก็ต่อเมื่อคุณเลิกสนใจแต่ตัวเอง เป็นความจริงที่ไม่ใช่ ทุกคนจะมีทักษะในการติดต่อสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่สามารถปรับปรุงได้ เพราะการมีทักษะนี้ เป็นสิ่งที่คุณ “เลือก” ได้ว่าจะทำหรือไม่
หน้าที่อย่างหนึ่งของผู้นำและนักสื่อสาร คือการให้ความชัดเจน อธิบายเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ไม่ใช่ทำให้ยากยิ่งขึ้น การระบุว่าปัญหาอยู่ที่ใด ไม่ต้องใช้ทักษะมากมายเท่ากับการหาวิธีแก้ปัญหา มาตรวัดครูที่ดีไม่ใช่ครูมีความรู้มากแค่ไหน แต่อยู่ที่ทำให้ลูกศิษย์มีความรู้มากแค่ไหน การทำให้ง่ายเป็นทักษะที่จำเป็น หากคุณต้องการติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่น Albert Einstein กล่าวไว้ว่า หากคุณไม่สามารถอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ง่ายๆ แสดงว่าตัวคุณเองก็ยังไม่เข้าใจเรื่องนั้นดีพอ
นักสื่อสารที่ดีสามารถสร้างแรงบันดาลใจแก่คนอื่น สูตรหรือสมการแรงบันดาลใจคือ สิ่งที่รู้ + สิ่งที่เห็น + สิ่งที่รู้สึก = แรงบันดาลใจ จากแรงบันดาลใจ คุณจะสามารถทำให้พวกเขาลงมือ ทำได้ สิ่งที่คนฟังจำเป็นต้องรู้ หมายถึง การได้รู้ว่า คุณอยู่ข้างเดียวกับพวกเขา Aristotle เข้าใจกฎข้อนี้ดี กล่าวไว้ในหนังสือ The Rhetoric ว่า องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการจูงใจคนคือ ความสามารถในการสื่อสารกับความรู้สึก ความปรารถนา ความต้องการ ความกลัว และอารมณ์ต่างๆ ของผู้ฟัง โดยทั้งหมดนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ฟัง ทำให้เขารู้ว่าคุณไว้ใจ ได้และพวกเขาควรจะฟังคุณ โดยสรุปคือ สิ่งที่คนจำเป็นต้องรู้คือ รู้ว่าคุณเข้าใจเขาและให้ความสำคัญกับเขา
สิ่งที่คนฟังจำเป็นต้องเห็น คนส่วนมากมักไม่ใช้เวลาตัดสินใจนานว่า เขาอยากจะฟังคุณต่อไปหรือไม่ หรือจะเลิกสนใจ คุณ และพวกเขามักตัดสินโดยดูจากสิ่งที่พวกเขาเห็นตั้งแต่ภายนอก คุณดูดีหรือไม่ ยิ้มแย้มหรือไม่ สิ่งที่พวกเขาต้องการมองเห็นในตัวคุณคือความมั่นใจ ความน่าเชื่อถือ และนิสัยใจคอ
สิ่งที่คนฟังจำเป็นต้องรู้สึก นี่คือองค์ประกอบที่สำคัญ ที่สุดในสมการแรงบันดาลใจ คนฟังไม่สามารถจดจำสิ่งที่คุณพูด หรือสิ่งที่คุณทำได้ตลอดไป แต่สิ่งที่พวกเขาจะจดจำได้ตลอดกาล คือ คุณทำให้พวกเขา “รู้สึก” อย่างไร หากคุณต้องการสร้างแรง บันดาลใจให้คนอื่น ต้องคำนึงถึง 3 สิ่งต่อไปนี้ คุณต้องรักในสิ่งที่คุณพูดและรักในคนฟัง คุณต้องเชื่อมั่นในตัวเองและคนอื่น และคุณต้องรู้สึกขอบคุณคนอื่น
การประสบความสำเร็จในการติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่นในระยะยาว ต้องการมากกว่าเพียงการสื่อสาร นั่นคือ การรักษาสัมพันธภาพให้คงอยู่ต่อไป ซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อคุณสามารถทำได้อย่างที่พูด อำนาจที่แท้จริงของการติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่น ไม่ได้มาจากการแสดงออกเพียงผิวเผิน อย่างเช่นการยิ้มให้คนแปลกหน้า การแสดงความเป็นมิตรกับพนักงานเสิร์ฟ หรือการสร้างความประทับใจให้แก่คนที่พบกันเพียงครั้งเดียว แต่ต้องมาจากการติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่นในระยะยาว เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ยาวนานต่อเนื่อง จึงจะมีคุณค่าอย่างแท้จริง เมื่อเราซื่อสัตย์ต่อคำพูดของเราอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่ากับใคร คู่สมรส ลูกค้า เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่ลูกหลาน เมื่อเราปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างที่เขาต้องการอย่างซื่อสัตย์และเคารพ ทั้งหมดจะทำให้คุณเป็นคนน่าเชื่อถือ ทำให้คุณสามารถติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่นได้ ทำให้คุณมีอิทธิพลต่อคนอื่น และไม่ต้องสงสัยเลยว่าคุณจะไม่ประสบความสำเร็จ
|
|
|
|