|
new releases
Manager 360 aStore
|
|
|
|
|
Derailed
ผู้เขียน: Tim Irwin
ผู้จัดพิมพ์: Thomas Nelson
จำนวนหน้า: 217
ราคา: $24.99
buy this book
|
|
|
|
ความล้มเหลวของคนเพียงคนเดียว สามารถสร้างความเสียหายให้แก่ทั้งองค์กรและคนในองค์กรทั้งหมด หากคนคนนั้นคือ CEO ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ CEO ที่ล้มเหลวหลายคน มักเป็นคนที่ฉลาดที่สุดและได้รับความนับถือยกย่องมากที่สุดในแวดวงของพวกเขา แต่กลับทำให้ตัวเองพังทลายราวกับรถไฟทั้งขบวนตกราง ด้วยความตาบอด ใช้อำนาจอย่างไร้การควบคุมและความเย่อหยิ่งยโส Tim Irwin ผู้แต่ง Derailed: Five Lessons Learned From Catastrophic Failures of Leadership เชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้ CEO ที่เก่งที่สุดต้องล้มเหลวไม่เป็นท่า เป็นเพราะนิสัยส่วนตัวที่พบได้ทั่วไปในคนทุกคน ไม่เว้นคนที่เก่งที่สุด ข้อบกพร่องธรรมดาๆ อย่างเช่นการไม่เปิดเผยตัวเอง การไม่ถ่อมตัว การไม่รู้จักตัวเองและการขาดความกล้า กลับกลายเป็นเรื่องอันตราย เมื่อไปอยู่ในตัวคนที่เป็นผู้นำเพราะทำให้เขาละเลยสัญญาณเตือนที่อาจป้องกัน ให้องค์กรทั้งองค์กรไม่ตกรางได้
หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงความล้มเหลวของ 6 CEO ที่เก่งที่สุด สาเหตุที่ทำให้พวกเขาผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต และเป็นสาเหตุที่ทำให้เราทุกคนก็อาจผิดพลาดได้เช่น เดียวกับพวกเขา คือการมีนิสัยที่บกพร่อง เช่นความเย่อหยิ่ง ยโส และการดูแคลนคนอื่น เพื่อหลีกเลี่ยงนิสัยที่ไม่ดีเหล่านั้น ก่อนที่มันจะทำลายอาชีพของเรา
การล้มครั้งใหญ่ที่สุด
การล้มที่ดังที่สุดของ 1 ใน 6 CEO ที่อยู่ในหนังสือ เล่มนี้เห็นจะไม่พ้นการล้มของ Dick Fuld แห่ง Lehman Brothers (อีก 5 คนคือ Robert Nardelli แห่ง Home Depot; Carly Fiorina แห่ง Hewlett-Packard; Durk Jager แห่ง Procter & Gamble; Steven Heyer แห่ง Starwood Hotels & Resort และ Frank Raines แห่ง Johnson) เพราะนำไปสู่การล้มทั้งยืนของ Lehman Brothers วาณิชธนกิจเก่าแก่ของสหรัฐฯ และยังเป็นการล้มละลายของบริษัทครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ด้วย
เกียรติประวัติในการทำงานของ Fuld ไม่เคยด่างพร้อย เขาอยู่กับ Lehman มานานถึง 39 ปีอย่างประสบความสำเร็จมาตลอด เคยทำให้ Lehman มีผลกำไรสูงถึง 4.2 พันล้านดอลลาร์มาแล้ว Fuld ได้ชื่อว่าเป็นคนฉลาดมาก และเป็นนักสู้ที่เดินหน้าบุกตลุย เขาได้รับยกย่องสูงสุดจากสื่อธุรกิจหลายครั้งหลายหน ทั้งตำแหน่งสุดยอด CEO ของสหรัฐฯ 1 ใน 30 CEO ที่ดีที่สุดในโลก และได้รับฉายาว่า Mr.Wall Street
เมื่อเกิดวิกฤติการเงินโลก นี่อาจเป็นศัตรูคนแรกและคนเดียวที่ทรงพลังมากที่สุด และมากกว่า Wall Street ที่ Fuld เคยพิชิต แต่ Fuld กลับทำความผิดพลาดที่คลาสสิก ที่สุดในการแข่งขัน เขาประมาทคู่ต่อสู้และประเมินตัวเองสูงเกินไป
จุดแข็งที่ใช้ไม่ได้ผลคือจุดอ่อน
เดือนมิถุนายน 2008 Lehman Brothers ประสบการขาดทุนสูงถึง 2.8 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นการขาดทุน ครั้งแรก ตั้งแต่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 1994 สร้างความสั่นสะเทือนแก่ยักษ์ใหญ่อย่าง Lehman อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัว Fuld เอง ซึ่งมีเกียรติประวัติดีเด่นมาตลอดหลายทศวรรษ Fuld ทำเหมือนทุกครั้งคือใช้จุดแข็งของเขานั่นคือ สู้ไม่ถอย แต่บาดแผลของ Lehman ใหญ่และลึกเกินกว่าที่ Fuld จะห้ามเลือดได้ และในเดือนกันยายนปีเดียวกัน Lehman ก็ขาดทุนอีกครั้งและหนักกว่าเดิมคือ 3.9 พันล้าน ดอลลาร์ ไม่กี่วันหลังจากนั้น Lehman ต้องยื่นล้มละลาย ซึ่งเป็นการล้มละลายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
จุดแข็งของ Fuld กลายเป็นจุดอ่อน เมื่อมันใช้ไม่ได้ ผลความผิดพลาดของ Fuld มี 2 ข้อ เขาไม่ยอมหยุดสู้ และประมาทศัตรู นอกจากนี้ยังเป็นเพราะความดื้อรั้นและหยิ่งยโส ไม่ใช่เพราะความผิดครั้งเดียว
อาจดูเหมือนว่าการล้มของ CEO ซึ่งพาให้บริษัทต้องล่มสลายไปด้วยนั้น เกิดจากความผิดพลาดครั้งใหญ่เพียงครั้งเดียว แต่ความจริงคือก่อนที่จะไปถึงกาลอวสานของ CEO และอาจรวมไปถึงบริษัทนั้น ต้องใช้เวลาและเป็นกระบวนการที่รุนแรงขึ้นเป็นลำดับอย่างชัดเจน แต่ CEO กลับมองไม่เห็น จนพาตัวเขาเองและบริษัทไปถึงจุดจบในที่สุด
กระบวนการที่นำไปสู่การล้มของ CEO เริ่มจากการไม่รู้จักตัวเองและไม่รู้จักคนอื่น CEO ที่ล้มเหลวมักไม่รู้จัก ตัวเอง ทำให้เขาไม่รู้จักการบริหารตัวเอง และยังไม่รับรู้ความวิตกกังวลของคนอื่น การขาดความรู้เกี่ยวกับคนอื่น เช่นความต้องการ ความหวังและอารมณ์ของพนักงาน ทำให้ CEO ไม่สามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสม ขาดความเห็นอกเห็นใจและเอาใจใส่ความต้องการของคนอื่น CEO ที่กำลังจะล้มเหลวลืมไปว่า การไม่รู้จักคนอื่นนั้น ส่งผลต่อพฤติกรรมที่เขาปฏิบัติต่อคนอื่น
ต่อจากขั้นแรกก็คือ ความหยิ่งยโสของ CEO ซึ่งหมายถึงการเชื่อว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางความสำเร็จขององค์กร นี่คือข้อผิดพลาดของ CEO Nardelli แห่ง Home Depot เขามองไม่เห็นความดีของวัฒนธรรมองค์กรใน Home Depot ซึ่งเน้นความไว้ใจกันและอยู่กันอย่างฉันพี่น้อง และคิดว่าวิธีการควบคุมและสั่งการของเขาเป็นสิ่งที่ดีกว่า ดังนั้น แทนที่จะใช้ประโยชน์จากวัฒนธรรมองค์กรที่ดีอยู่แล้วของ Home Depot เขากลับทำลายมันลงโดยสิ้นเชิง ทำให้พนักงานสูญสิ้นศรัทธาที่มีต่อองค์กร Nardelli ลืมไปว่า ไม่ว่า CEO จะเก่งฉกาจสามารถปานใด แต่การจะทำงานให้สำเร็จลุล่วงได้นั้นต้องเกิดจากผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งจะต้องมีความเชื่อถือศรัทธาในองค์กร
จากความหยิ่งยโส ทำให้ CEO ที่กำลังจะล้มเหลว มองไม่เห็นสัญญาณเตือนล่วงหน้า เสียงโวยวายของพนักงานไม่ได้รับความสนใจจาก CEO ผู้มีความเย่อหยิ่งเป็นเครื่องบังตา นี่เป็นข้อผิดพลาดของ Fuld แห่ง Lehman ผู้ไม่เคยแพ้ เขาจึงสนใจแต่การเอาชนะ และมองไม่เห็นหายนะที่รออยู่ข้างหน้า ความอวดดื้อถือดีทำให้ CEO มอง ไม่เห็นสัญญาณเตือนที่ดังขึ้นตลอดเวลา อย่างการบ่นว่าของพนักงาน ความเชื่อมั่นในตัว CEO ที่ลดลงและความไม่เชื่อถือในเส้นทางที่ผิดพลาดซึ่ง CEO กำลังนำพาบริษัทเดินไปสู่จุดจบ
ก่อนหน้ารถไฟจะตกราง สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ CEO คือปกป้องตัวเอง มาถึงขั้นนี้เริ่มเห็นชัดแล้วว่า CEO สูญเสียความเชื่อมั่นจากพนักงานหรือบอร์ดบริหาร ถึงตอนนี้การปกป้องตัวเองของ CEO จะสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ และจะเริ่มยกเหตุผลสารพัดมาแก้ตัว เพื่อปกป้องการกระทำของตัวเอง ซึ่งยิ่งเป็นการปิดตัวเองไม่ให้ได้รับรู้ข้อมูล ที่อาจจะช่วยขจัดปัดเป่าหายนะ หรือลดความเสียหายในขั้นสุดท้ายลงได้
ขั้นสุดท้ายก็คือเกมจบแล้ว เมื่อ CEO ถูกบริษัทยื่น คำขาดให้ยอมลาออกแต่โดยดี หรือจะยอมถูกปลดให้เสียชื่อเสียง
บทเรียนราคาแพง
บทเรียนแรก นิสัยสำคัญกว่าความสามารถ การเป็นคนเปิดเผย ความฉลาดเฉลียว การถ่อมตัวและความกล้าหาญ จะต้องมีอยู่ในตัวผู้นำ
บทเรียนที่สอง ความหยิ่งยโสคือเจ้าแห่งความผิดพลาดทั้งปวง ที่นำไปสู่ความล้มเหลวของผู้นำ นี่คือปัญหาต้นตอรากเหง้าที่ทำให้ CEO มองไม่เห็นว่า ตัวเองกำลังไม่ทำอะไรที่สมควรทำและกำลังเดินไปสู่หายนะ การทำตัว ห่างเหิน ไม่รับฟังคนอื่น โทษคนอื่นตลอดเวลา เอาดีเข้าตัว ล้วนแต่สัมพันธ์กับความหยิ่งยโส
บทเรียนที่สาม การไม่รู้จักทั้งตัวเองและคนอื่น คือความบกพร่องใหญ่เมื่ออยู่ในตัวผู้นำ การรู้จักตัวเองทำให้เรายอมรับข้อบกพร่องของตัวเอง แม้กระทั่งในผู้นำที่แข็ง แกร่งที่สุด ก็ยังมีจุดอ่อน และมีความหลงตัวเอง เย่อหยิ่งและไม่เคารพความคิดเห็นของคนอื่น แต่หากผู้นำรู้จักตัวเอง จะทำให้สามารถบริหารข้อบกพร่องในนิสัยของตนได้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับการตัดสินใจและการผูกสัมพันธ์กับคนอื่น
บทเรียนที่สี่ เราหนีความเป็นตัวเราเองไม่พ้น โดยเฉพาะเมื่อถูกกดดัน และบทเรียนสุดท้าย ความล้มเหลวหลีกเลี่ยงได้ ถ้าเราใส่ใจสัญญาณเตือน
|
|
|
|